15 นาฬิกาออกกำลังกายยอดฮิตเพื่อคนรักสุขภาพประจำปี 2024
สายสปอร์ตผู้เข้าสู่วงการกีฬาครั้งแรกคงสงสัยว่านาฬิกาออกกำลังกาย แตกต่างจากนาฬิกาทั่วไปอย่างไร ? เพราะเมื่อพิจารณาจากรูปทรงภายนอกแล้วนาฬิกาทั้ง 2 รูปแบบคล้ายกันจนแยกแทบไม่ออก แต่ถ้าสังเกตให้ดีแล้วจะพบว่าฟีเจอร์ และสเปกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ในบทความนี้เราจึงชวนทุกคนมารู้จักกับนาฬิกาออกกำลังกายกันให้มากขึ้น รับรองว่าจะได้ผู้ช่วยวางแผนเล่นกีฬาได้สนุกมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
นาฬิกาออกกำลังกาย ยอดฮิตประจำปี 2024 มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ไม่ว่าจะเป็น Garmin, SUUNTO, Fitbit ฯลฯ ทำให้มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่วงการกีฬาไม่ทราบว่าควรเลือกนาฬิกาออกกำลังกายยี่ห้อไหนดี ถึงจะตรงใจมากที่สุด ในบทความนี้เราจึงรวบรวม15 แบรนด์นาฬิกาออกกำลังกายที่กำลังเป็นที่นิยมมาให้แล้ว จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1. Garmin Forerunner 265 series
เป็นนาฬิกาออกกำลังกายที่เหมาะแก่คนรุ่นใหม่ ด้วยดีไซน์สุดคูล ขนาดกะทัดรัด หน้าปัดทรงกลมทนแดดทนฝนดีเยี่ยม แสดงภาพ และสีสันตัวเลขชัดเจน ฟีเจอร์อัดแน่นรองรับทุกการฝึกซ้อมเหมาะแก่นักกีฬาผู้กำลังมองหาเทรนเนอร์ส่วนตัวอย่างแท้จริง
- จุดเด่น
สามารถเปิดโหมดการใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นโหมด GPS หรือระบบดาวเทียมต่าง ๆ ช่วยให้นักกีฬาปลอดภัยทุกการแข่งขัน มาพร้อมกับระบบติดตามสุขภาพอย่างครอบคลุมและนาฬิกาออกกำลังกายตัวนี้ยังได้ออกแบบโปรไฟล์กิจกรรมของแต่ละชนิดกีฬาที่ตอบโจทย์ผู้รักสุขภาพมากมาย อาทิ การฝึกคาร์ดิโอ, โยคะ และการพายเรือ
- จำนวนโปรแกรมการออกกำลังกาย
มากกว่า 30 ชนิด
- ความละเอียดของจอแสดงผล
416 x 416 พิกเซล
- ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด
13 วัน
- มาตรฐานการกันนํ้า
50 เมตร
2. SUUNTO 9 PEAK PRO
นาฬิกาออกกำลังกายแฮนด์เมดจากประเทศฟินแลนด์ดีไซน์บางเฉียบ น้ำหนักเบา วัสดุคงทนสูง มาตรฐานเดียวกับนาฬิกาทหาร หน้าจอแสดงผลอ่านค่าง่ายสบายตา ใช้งานได้ดีกับทุกสภาวะสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นใต้น้ำ ปีนเขา และเดินป่า
- จุดเด่น
เป็นนาฬิกาออกกำลังกายที่สามารถออกแบบกิจกรรมออกกำลังกายได้มากถึง 80 ชนิด ช่วยให้นักกีฬาหน้าใหม่และหน้าเก่าเตรียมพร้อมกับการแข่งขันในทุกระดับ รองรับการใช้งานได้มากถึง 21 ภาษา สามารถใช้งานคู่กับอุปกรณ์ภายนอกที่ช่วยตรวจสอบประสิทธิภาพร่างกายอย่างระดับการนอนหลับ ระดับความเครียด ระดับการเต้นของหัวใจ ได้แม่นยำกว่าเดิม เช่น Suunto Smart Heart Rate Belt & Suunto Smart Sensor
- จำนวนโปรแกรมการออกกำลังกาย
90 ชนิด
- ความละเอียดของจอแสดงผล
240 x 240
- ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด
21 วัน
- มาตรฐานการกันนํ้า
100 เมตร
3. FITBIT รุ่น Sense 2
นาฬิกาออกกำลังกายทรงสี่เหลี่ยมโค้งมน อันเรียบหรู เหมาะแก่นักกีฬามือสมัครเล่นที่ไม่เน้นออกกำลังกายโลดโผน เป็นตัวเลือกที่ดีแก่ผู้วางแผนลดน้ำหนัก เริ่มพัฒนาร่างกาย อย่างการวิ่งมาราธอน และว่ายน้ำ ก่อนหันไปเล่นเวทเทรนนิ่งในอนาคต
- จุดเด่น
นาฬิกาออกกำลังกาย ที่ออกแบบมาเพื่อนักกีฬามือใหม่ และการใช้ชีวิตประจำวันอย่างลงตัว ด้วยฟีเจอร์ Google Wallet ที่ช่วยให้ชำระค่าบริการง่าย ๆ ผ่านหน้าจอนาฬิกา มาพร้อมกับระบบติดตามสุขภาพมากมายไม่ว่าจะเป็นสุขภาพประจำเดือนของผู้หญิง การตรวจสอบระดับออกซิเจน และช่วยให้คุณตื่นเช้ารับพลังบวกอย่างสดใสด้วยระบบปลุก Smart Awake
- จำนวนโปรแกรมการออกกำลังกาย
20 โหมด
- ความละเอียดของจอแสดงผล
(ไม่ระบุ)
- ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด
6 วัน
- มาตรฐานการกันนํ้า
50 เมตร
4. Garmin Fenix 7X
นาฬิกาออกกำลังกายไซส์ใหญ่ ดีไซน์แข็งแกร่งวัสดุพรีเมี่ยม ที่สายสปอร์ตเห็นแล้วต้องชื่นชอบ มาพร้อมกับคลังเก็บเพลงสูงสุดถึง 2,000 เพลง ช่วยให้ออกกำลังกายได้เพลิดเพลินไม่รู้จบ รองรับการใช้งาน 2 ระบบทั้งหน้าจอสัมผัส และปุ่มกดด้านข้าง ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ
- จุดเด่น
นาฬิกาออกกำลังกายระดับพรีเมียมนำร่องด้วยเทคโนโลยี Solar Cell ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 37 วัน แม้ว่าเปิดโหมด GPS ทิ้งไว้ก็ยังทำงานได้ถึง 42 ชั่วโมง พร้อมบันทึกข้อมูลสำคัญด้านสุขภาพทุก ๆ 2 นาที เพื่อสร้างกราฟและวางแผนสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้ใช้งาน พ่วงด้วยฟีเจอร์ Multi-brand GPS ที่ทำให้คุณไม่มีทางหลง เวลาเดินเข้าป่าลึก
- จำนวนโปรแกรมการออกกำลังกาย
30 ชนิด
- ความละเอียดของจอแสดงผล
280 x 280
- ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด
37 วัน
- มาตรฐานการกันนํ้า
100 เมตร
5. Amazfit Active Edge
นาฬิกาออกกำลังกายราคาไม่ถึงหมื่น หน้าจอแสดงผลเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน น้ำหนักเบาด้วยวัสดุพลาสติกสุดคงทน มาพร้อมกับสีสันให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นสีเขียว สีดำ และสีมิ้นท์
- จุดเด่น
นาฬิกาออกกำลังกายที่ให้คุณเลือกจำนวนโปรแกรมได้สูงสุดถึง 132 รายการ ใส่กันน้ำก็ทำได้ดีเยี่ยม เพราะกระจกออกแบบมาให้กันน้ำจืดและน้ำเค็มอย่างถาวร และนาฬิกาตัวนี้ยังสามารถประเมินความเสี่ยงสุขภาพด้านต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณแคลอรี, ติดตามภาวะการนอน รวมไปถึงประเมินความเครียดของผู้สวมใส่ตลอดทั้งวัน
- จำนวนโปรแกรมการออกกำลังกาย
132 ชนิด
- ความละเอียดของจอแสดงผล
360 x 360 พิกเซล
- ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด
16 วัน
- มาตรฐานการกันนํ้า
10 เมตร
6. COROS PACE 3
นาฬิกาออกกำลังกายตัวเรือนบางเฉียบ วัสดุโพลีเมอร์เสริมไฟเบอร์ สายไนลอน ที่ช่วยระบายอากาศดีเยี่ยม ป้องกันเหงื่อในระดับสูง และ 2.สายซิลิโคน มาพร้อมกับคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน ง่ายต่อการดูแลรักษา
- จุดเด่น
นาฬิกาออกกำลังกายรองรับการฟังเพลงในรูปแบบ Offline ไม่จำเป็นต้องเปิดสัญญาณ Wifi หรือ Bluetooth ตลอดเวลา หน้าจอแสดงผลในรูปแบบ Transflective ให้ความคมชัดแม้ว่ามีแสงแดดจ้า ระบบ GPS แม่นยำสูง แสดงผลที่ตั้งได้อย่างแม่นยำตรงจุดแม้ต้นไม้บัง และสามารถวัดระดับออกซิเจนในเลือดของผู้สวมนาฬิกาได้
- จำนวนโปรแกรมการออกกำลังกาย
มากกว่า 10 ชนิด
- ความละเอียดของจอแสดงผล
(ไม่ระบุ)
- ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด
24 วัน
- มาตรฐานการกันนํ้า
50 เมตร
7. Polar Vantage V3
นาฬิกาออกกำลังกายเกรดไฮเอนด์ ยกระดับการประมวลผลด้านชีวภาพของผู้ใช้งานด้วยเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Elixir Biosensing ดีไซน์หน้าจอทรงกลมสุดเรียบหรู หน้าจอกระจกทนทานทุกสภาพอากาศ ความละเอียดหน้าจอแสดงผลตัวเลขคมชัด อ่านค่าได้อย่างชัดเจนแม้ว่าจะอยู่ในเวลากลางคืน
- จุดเด่น
นาฬิกาออกกำลังกาย ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันดาวน์โหลดแผนที่จากทั่วทุกมุมโลกมาอยู่ในเครื่องเดียว ช่วยให้เดินป่า ขึ้นเขา ว่ายน้ำได้อย่างอิสระ แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมอับสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระบบตรวจสอบชีวภาพร่างกายทำได้อย่างครอบคลุม เช่น ตรวจสอบอุณหภูมิผิวหนัง หรือวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น
- จำนวนโปรแกรมการออกกำลังกาย
150 โปรแกรม
- ความละเอียดของจอแสดงผล
462 ppi
- ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด
8 วัน
- มาตรฐานการกันนํ้า
50 เมตร
8. Fitbit Luxe
นาฬิกาออกกำลังกายไซส์เล็กเหมาะแก่นักกีฬาหน้าใหม่ ไม่เน้นการเข้ายิมทุกวัน ใช้งานง่ายระบบสัมผัสไม่ซับซ้อน รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน Android ทำให้โทรออก-รับสายระหว่างเล่นกีฬาได้ ไม่ต้องเสียเวลายกหูโทรศัพท์ให้เหนื่อย
- จุดเด่น
นาฬิกาออกกำลังกายที่ตอบโจทย์แก่ผู้มีปัญหาความเครียดด้วยการออกแบบเครื่องมือชื่อว่า “Stress Management Tools” ซึ่งจะแสดงค่าขึ้นมาพร้อมให้คำแนะนำว่าคุณควรจัดการความเครียดอย่างไร พร้อมให้คะแนนการนอนหลับในแต่ละคืน ช่วยให้คุณวางแผนการนอน และหลับอย่างมีคุณภาพ
- จำนวนโปรแกรมการออกกำลังกาย
20 ชนิด
- ความละเอียดของจอแสดงผล
326 ppi
- ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด
5 วัน
- มาตรฐานการกันนํ้า
50 เมตร
9. Google Pixel Watch
นาฬิกาออกกำลังกายจากค่าย Google หน้าจอสีดำอันเรียบหรูทันสมัย ช่วยให้ผู้ใช้งานอ่านค่าได้ง่าย ๆ ยามค่ำคืน ทำมาจากวัสดุสเตนเลสรีไซเคิล ทนทานต่อแรงกระแทกสูง สามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอ UI ได้ตามสไตล์ของผู้ใช้งาน
- จุดเด่น
นาฬิกาออกกำลังกายอัจฉริยะที่ผสมผสานฟังก์ชันออกกำลังกาย ฟังก์ชันการตรวจเช็กสุขภาพ เช่น การตรวจวัดระดับออกซิเจน, การเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง ร่วมกับฟังก์ชันการใช้งานทั่วไปได้อย่างลงตัว เพราะใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Google Watch OS 3.5 ทำให้นาฬิกาตัวนี้เข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Google ได้ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินผ่าน Google wallet หรือควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านผ่านแอปพลิเคชัน Google Home
- จำนวนโปรแกรมการออกกำลังกาย
40 ชนิด
- ความละเอียดของจอแสดงผล
450 x 450 พิกเซล
- ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด
5 วัน
10. Wahoo Elemnt Rival
นาฬิกาออกกำลังกายสเปกกลาง เหมาะแก่การฝึกซ้อมและลงแข่งขันในสนามจริง หน้าจอใช้วัสดุกันแรงกระแทกสูงป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีเยี่ยม มาพร้อมกับระบบวิเคราะห์สุขภาพกายอย่างแม่นยำ สามารถตรวจสอบประวัติสุขภาพย้อนหลังแบบครบวงจร
- จุดเด่น
นาฬิกาที่ได้ออกแบบระบบติดตามกิจกรรมการออกกำลังกายเบื้องต้นอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการนับก้าวเดิน, ตรวจสอบระดับการเผาผลาญแคลอรี, นับระยะทางวิ่ง ฯลฯ หากเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนระบบปฏิบัติการ iOS แล้ว นาฬิกาออกกำลังกายตัวนี้จะปลดล็อกฟีเจอร์พิเศษที่คุณคาดไม่ถึงได้ เช่น การแจ้งเตือนอีเมลผ่านทางนาฬิกา เป็นต้น
- จำนวนโปรแกรมการออกกำลังกาย
(ไม่ระบุ)
- ความละเอียดของจอแสดงผล
240 x240 พิกเซล
- ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด
14 วัน
11. Xiaomi Watch S3
นาฬิกาออกกำลังกายสัญชาติจีน ดีไซน์สุดคูล ผลิตจากวัสดุสเตนเลสน้ำหนักเบา แม้ว่าโดนน้ำลึกก็ยังไม่เป็นสนิม อัตรารีเฟรชเรทสูง ช่วยให้การแสดงผลไม่มีกระตุก และเอาใจผู้ใช้งานด้วยการให้ปรับแต่งหน้าจอได้ตามสไตล์ที่คุณต้องการ
- จุดเด่น
นาฬิกาออกกำลังกายที่พร้อมออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายได้สูงสุด 150 รายการ พ่วงด้วยระบบตรวจสอบติดตามสภาพร่างกายอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการเช็กระดับความเข้มข้นของออกซิเจน, ระดับความเครียด, ความถี่ในหายใจ ยิ่งไปกว่านั้นนาฬิกานี้ยังสามารถคำนวณวงรอบประจำเดือนของคุณผู้หญิงได้อย่างแม่นยำ
- จำนวนโปรแกรมการออกกำลังกาย
150 ชนิดกีฬา
- ความละเอียดของจอแสดงผล
466 x 466 พิกเซล
- ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด
15 วัน
12. Redmi Watch 3
อีกหนึ่งนาฬิกาออกกำลังกายราคาประหยัดสัญชาติจีนผลิตมาจากวัสดุซิลิโคน ช่วยให้ไม่เหม็นอับเวลาเหงื่อออก มาพร้อมกับคุณสมบัติให้คุณออกแบบหน้าปัดได้สูงสุด 200 สไตล์ หน้าจอสว่างสูงสุดถึง 600 nits ช่วยแสดงภาพคมชัดทุกสภาพแวดล้อม และมีสีสันให้เลือกหลากหลาย เช่น สีดำ สีเขียว สีขาว ฯลฯ
- จุดเด่น
นาฬิกาออกกำลังกายคุณภาพสูงที่มีคุณสมบัติเป็นทั้งผู้ช่วยตรวจสุขภาพ และสมาร์ตโฟนได้ในเครื่องเดียว เนื่องจากมีไมค์ บลูทูธ ลำโพงจบภายในตัว สามารถออกแบบโปรแกรมออกกำลังกายได้สูงสุด 120 โปรแกรม อีกทั้งยังมีคุณสมบัติสั่งการด้วยเสียงผ่าน AI สุดอัจฉริยะอย่าง Alexa
- จำนวนโปรแกรมการออกกำลังกาย
120 โหมด
- ความละเอียดของจอแสดงผล
390×450 พิกเซล
- ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด
15 วัน
- มาตรฐานการกันนํ้า
50 เมตร
13. Apple Watch Series 9
นาฬิกาออกกำลังกายจากค่ายแอปเปิ้ลดีไซน์เรียบหรู หน้าจอประเภท Sapphier Crystal ป้องกันรอยนิ้วมือ และรอยขีดข่วนอย่างเหนือระดับ จอภาพคุณภาพสูงความสว่างระดับ 2000 nits ทำให้เห็นข้อมูลด้านสุขภาพอย่างชัดเจนแม้อยู่ในเวลากลางคืน พร้อมให้คุณเลือกประเภทวัสดุสายข้อมือหลากหลายไม่ว่าจะเป็น สายหนัง, ไนลอน สายซิลิโคน ฯลฯ
- จุดเด่น
นาฬิกาออกกำลังกายที่ตอบโจทย์การวางแผนออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เต้นแอโรบิค, โยคะ วิ่งมาราธอน ว่ายน้ำ ฯลฯ พ่วงด้วยฟังก์ชันทำให้คุณติดต่อกับบุคคลภายนอกได้ตลอดเวลาระหว่างเล่นกีฬา ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ ได้แก่ ฟังก์ชันรับสายโทรศัพท์, ฟังก์ชันแสดงการแจ้งเตือน และฟังก์ชันตอบกลับข้อความอัตโนมัติ
- จำนวนโปรแกรมการออกกำลังกาย
(ไม่ระบุ)
- ความละเอียดของจอแสดงผล
396 x 484 พิกเซล
- ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด
36 ชั่วโมง
- มาตรฐานการกันนํ้า
50 เมตร
14. G-SQUAD PRO GSHOCK GSW-H1000-1
นาฬิกาออกกำลังกายเพื่อนแท้นักกีฬาอย่างแท้จริง ด้วยดีไซน์ภายนอกแข็งแกร่งดุดันสุดสตรอง วัสดุภายนอกกันกระแทกอย่างยอดเยี่ยม ทำให้เล่นกีฬาเอกซ์ตรีมชนิดที่ไม่ต้องห่วงว่าตัวเรือนกระจกจะเสียหาย แถมสายรัดตัวเรือนออกแบบมาเพื่อกำจัดคราบเหงื่อ เศษโคลนติดโดยเฉพาะ
- จุดเด่น
นาฬิกาออกกำลังกายทนทานต่อทุกสภาวะอากาศด้วยคุณสมบัติป้องกันน้ำลึกที่ระดับ 200 เมตร รองรับโปรแกรมฝึกซ้อมกีฬาเอกซ์ตรีมสูงสุด 15 ประเภท หากเกิดเหตุฉุกเฉินไม่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนได้ GSHOCK ก็พร้อมเชื่อมต่อกับสัญญาณ GPS ให้คุณทราบตำแหน่งที่ตั้งแบบอัตโนมัติ
- จำนวนโปรแกรมการออกกำลังกาย
15 โปรแกรม
- ความละเอียดของจอแสดงผล
360 x 360 พิกเซล
- ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด
18 ชั่วโมง
- มาตรฐานการกันนํ้า
200 เมตร
15. Amazfit T-Rex 2
นาฬิกาออกกำลังกาย ดีไซน์สมบุกสมบัน เหมาะแก่การผจญภัยเอ็กซ์ตรีมเหนือระดับ สายรัดข้อมือความยืดหยุ่นสูง พร้อมรับทุกแรงกระแทก ทนทานต่อทุกสภาวะอากาศแม้ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมร้อนจัด หรือหนาวติดลบ ผู้รักการผจญภัยห้ามพลาด
- จุดเด่น
นาฬิกาออกกำลังกายที่ออกแบบระบบตรวจวัดด้านสุขภาพอย่างครอบคลุม เช่น ฟีเจอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด, การตรวจวัดคุณภาพการนอนหลับ การทดสอบระดับความเครียด พร้อมวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง ต่อเนื่อง 7 วัน และสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ได้ผ่านแอปพลิเคชัน Zepp ได้ด้วย
- จำนวนโปรแกรมการออกกำลังกาย
158 โหมด
- ความละเอียดของจอแสดงผล
454 x 454 พิกเซล
- ระยะเวลาการใช้งานสูงสุด
24 วัน
- มาตรฐานการกันนํ้า
100 เมตร
วิธีการเลือกซื้อนาฬิกาออกกำลังกาย
เมื่อเพื่อน ๆ ทราบกันไปแล้วว่า 15 นาฬิกาออกกำลังกายยี่ห้อไหนดีสเปคสูง หากสนใจสปอร์ตวอชสักเรือน แต่ยังไม่รู้ว่าควรเลือกจากปัจจัยอะไรดี เราได้รวบรวมวิธีเลือกซื้อให้คุณแล้วดังต่อไปนี้
1. เลือกนาฬิกาออกกำลังกายจากแบรนด์ยอดนิยม
การเลือกนาฬิกาออกกำลังกายจากแบรนด์ยอดนิยมจะมอบประสบการณ์ที่ดีมากกว่าเดิม เพราะทางผู้ผลิตได้ดีไซน์วัสดุคุณภาพสูง ทำให้สามารถสวมใส่นาฬิกาได้ทนทานในทุกสภาพแวดล้อม และด้านซอฟต์แวร์ก็พัฒนาเพื่อผู้รักการออกกำลังกายอย่างแท้จริง ซึ่งมีแบรนด์ที่น่าสนใจ ได้แก่
- Garmin
แบรนด์นาฬิกาออกกำลังกายระบบ GPS รุ่นแรกของโลก เปิดตัวสปอร์ตวอชครั้งแรกเมื่อปี 2003 ด้วยรุ่น “Forerunner 201” การันตีความแข็งแกร่งของตัวเรือนด้วย Know-how ของผู้ผลิต ซึ่งมีประสบการณ์สร้างสรรค์โปรดักส์คุณภาพสูงหลากหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ การบิน, ยานยนต์ และการเดินทะเล
- Apple
แม้ว่าแอปเปิลจะเป็นแบรนด์ชั้นนำด้านสมาร์ตโฟน แต่ก็ได้พัฒนาโปรดักส์นาฬิกาออกกำลังกายรุ่นแรกภายใต้ชื่อ “Apple Watch” ในปี 2015
ซึ่งเน้นฟีเจอร์การตรวจสอบสภาวะสุขภาพขั้นพื้นฐาน เช่น การเต้นของหัวใจ, วัดระดับออกซิเจนในเลือด และแชร์ข้อมูลด้านสุขภาพเพื่อให้แพทย์วินิจฉัยรักษาโรคได้ตรงตามอาการ พร้อมสามารถเชื่อมต่อกับ iPhone เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ SOS ช่วยให้คุณติดต่อกับคนทางบ้านได้ยามฉุกเฉินระหว่างเล่นกีฬา
- Amazfit
นาฬิกาออกกำลังกายสัญชาติจีน ภายใต้แบรนด์ Huami ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีเดียวกับ Xiaomi ซึ่งได้เปิดตัวสปอร์ตวอชรุ่นแรก “Amazfit Bip” ในปี 2562 ที่เน้นราคาประหยัดจับต้องได้ ทำให้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วในหมู่นักกีฬารุ่นใหม่ เซ็นเซอร์วัดสุขภาพมีขนาดเล็ก ช่วยให้สวมใส่อย่างสบาย แถมสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งกับระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
- Fitbit
นาฬิกาออกกำลังกายสัญชาติอเมริกา ที่เพิ่งถูกเทคโอเวอร์ไปโดย Google เมื่อมี 2015 หลังจากประสบปัญหาการแข่งขันในอุตสาหกรรมสปอร์ตสมาร์ตวอชอย่างรุนแรง การเข้ามาของ Google ได้สร้างเซอร์ไพร์ให้แก่สาวก Fitbit เพราะสามารถเข้าถึงบริการของเว็บ search engine เจ้าดังมากมาย เช่น Google Map หรือ Google Pay เป็นต้น
2. เลือกนาฬิกาออกกำลังกายแบบน้ำและเหงื่อสำหรับกิจกรรมกีฬากลางแจ้งหรือในน้ำ
นาฬิกาออกกำลังกายที่ดีควรมาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำได้ที่ระดับความลึก 50 เมตรเป็นต้นไป เพราะจะทำให้คุณสวมใส่ในขณะดำน้ำลึกใต้ท้องทะเล พร้อมทั้งสามารถป้องกันความเสียหายจากอาการน้ำเข้าตัวเรือนในกรณีที่ตกทำนาฬิกาตกน้ำ
นอกจากป้องกันน้ำได้แล้ว ควรเลือกนาฬิกาที่มีวัสดุสายรัด ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันเหงื่อ หรือแบคทีเรียจากการเหม็นอับด้วย เช่น สายประเภทซิลิโคน หรือสายผ้าไนลอน เป็นต้น
3. เลือกนาฬิกาออกกำลังกายที่เชื่อมต่อกับมือถือได้และมีฟังก์ชันเสริมน่าสนใจ
นาฬิกาออกกำลังกายที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบสมาร์ตโฟนได้ จะช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างครอบคลุมมากกว่าเดิม ผ่านการเข้าถึงบริการตรวจสอบสุขภาพร่วมกับแอปพลิเคชันต่างๆ และยังมีฟังก์ชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกโดยไม่ต้องพกพาโทรศัพท์ เช่น เปิดไฟฉาย, เปิด-ปิดเพลง หรือแม้แต่เป็นนาฬิกาปลุกภายในตัว
ทําไมต้องซื้อนาฬิกาออกกำลังกาย
1. เพื่อตรวจสุขภาพ
นาฬิกาออกกำลังกายไม่ว่าจะราคาถูก หรือแพง ล้วนมีฟีเจอร์ตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐาน เช่น การวัดระดับการเต้นของหัวใจ การวัดระดับออกซิเจน หรือการตรวจสอบคุณภาพการนอนหลับ ซึ่งเป็นสิ่งที่นาฬิกาทั่วไปไม่มี ทำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ อาทิ โรคเบาหวาน โรคความดันสูง ควรสวมใส่เป็นพิเศษ เพื่อวางแผนด้านสุขภาพแต่เนิ่นๆ ไม่ให้อาการของโรคลุกลามไปมากกว่าเดิม
2. ฟีเจอร์หลากหลายตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
นอกจากฟีเจอร์ด้านการตรวจวัดระดับสุขภาพแล้ว นาฬิกาออกกำลังกาย ยังได้ออกแบบฟีเจอร์อื่นๆ ที่ทำให้แตกต่างไปจากนาฬิกาทั่วไป เช่น ระบบการชำระเงิน, เชื่อมต่อระบบ GPS ยามฉุกเฉิน หรือส่งข้อความในรูปแบบของแชตเสียงได้
3. วางแผนฝึกซ้อมอย่างมืออาชีพ
นาฬิกาออกกำลังกายช่วยให้นักกีฬาหน้าใหม่วางแผนเล่นกีฬาอย่างมืออาชีพ ผ่านโปรแกรมต่างๆ ที่ทางผู้พัฒนาได้สร้างขึ้น ซึ่งช่วยให้ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่วงการกีฬา เข้าใจวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้องว่าควรปฏิบัติอย่างไรถึงจะลดน้ำหนัก หรือสร้างกล้ามเนื้อได้ตามที่ต้องการ
หวังว่าเพื่อนๆ คงได้รับคำตอบกันไปแล้วนะครับว่าควรเลือกซื้อนาฬิกาออกกำลังกายอย่างไรบ้าง และมีแบรนด์สปอร์ตวอชอะไรที่น่าสนใจ เหมาะแก่การจับจองเป็นเจ้าของ
ซึ่งจะเห็นได้ว่านาฬิกาออกกำลังกายที่ดีควรมีทั้งฟีเจอร์ตรวจสอบสุขภาพด้วยเซนเซอร์ต่างๆ, ระบบติดตามสุขภาวะ รวมทั้งโปรแกรมวางแผนเล่นกีฬาอย่างมืออาชีพ เมื่อรู้ดังนี้แล้วก็ไปจับจองเป็นเจ้าของกันได้เลย
เพลิดเพลินไปกับความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตที่ทันสมัย ให้คุณได้ช้อปปิ้งและท่องเที่ยวอย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี ซิกเนเจอร์ พร้อมรับพอยต์สะสม 5 เท่า* สำหรับหมวดห้างสรรพสินค้า หรือออนไลน์ และร้านอาหาร ที่ร่วมรายการ (ยกเว้นร้านอาหารในโรงแรม) สิทธิพิเศษในการใช้บริการห้องรับรอง DragonPass Lounge ที่สนามบินทั่วโลก และเมื่อชำระเบี้ยประกัน รับคืนสุดคุ้ม รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 28,000 บาท* พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด