พูดคุยกับเราได้ที่

0 2646 3555

ประกันสุขภาพแบบไหนดี พร้อมวิธีเลือกให้ครอบคลุม

ประกันสุขภาพแบบไหนดี พร้อมวิธีเลือกให้ครอบคลุม
 
ประกันสุขภาพแบบไหนดี พร้อมวิธีเลือกให้ครอบคลุม
 
 

เมื่อพูดถึงการทำประกันสุขภาพเพื่อน ๆ มักไม่ให้ความสนใจ เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น จากความคิดว่ามีประกันสังคม หรือสิทธิบัตรทอง 30 บาทอยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าประกันสุขภาพมีความสำคัญมากกว่าที่คิด เพราะโรคภัยในปัจจุบันเกิดขึ้นกับเราได้ตลอดเวลา จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้มีโอกาสเป็นโรคร้ายอย่างโรคมะเร็ง หรือโรคหัวใจ ได้ง่ายขึ้น
      
หากเกิดโรคร้ายแรงแล้ว เงินเก็บที่อุตส่าห์ตั้งใจออมไว้ ต้องนำไปใช้จ่ายรักษาตัว จนไม่สามารถวางแผนเกษียณได้ตามที่ต้องการ ด้วยเหตุนี้เราจึงนำประกันสุขภาพดี ๆ มาฝากทุกคนที่ไม่รู้ว่าควรเลือกประกันสุขภาพแบบไหนดีที่ใช่ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ตนเอง และคนข้างหลัง พร้อมนำวิธีการเลือกซื้อประกันมาฝากเพื่อนๆ ทุกคนอีกด้วย!

 

วิธีการเลือกประกันสุขภาพ
วิธีการเลือกประกันสุขภาพ

 


วิธีการเลือกประกันสุขภาพ

ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพมีตัวเลือกมากมาย ทำให้เพื่อนๆ ที่สนใจทำประกันครั้งแรก ไม่รู้ว่าควรทำประกันสุขภาพอันไหนดี และก่อนเลือกซื้อต้องดูจากอะไร? วันนี้เรานำเทคนิคดี ๆ มาให้ทุกคนรู้กันแล้ว

1. เลือกจากวงเงินความคุ้มครอง

วงเงินความคุ้มครองอธิบายง่าย ๆ คือ จำนวนเงินสูงสุดที่เราจะได้รับในการรักษาพยาบาลในกรณีที่ต้องรักษาตัวในโรคนั้น ๆ ยิ่งวงเงินสูง ๆ ก็มั่นใจได้ว่าจะมีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลอย่างครอบคลุมเพียงพอ ไม่ต้องจ่ายเงินส่วนตัวเพิ่มเข้าไป

 

2. เลือกจากเบี้ยประกัน

ก่อนทำประกันสุขภาพอยากให้เพื่อนๆ ลองเช็กสุขภาพการเงินครับว่าจ่ายเบี้ยประกันไหวไหม? เพราะหลายคนจ่ายเบี้ยสูง ๆ จากการคาดหวังผลตอบแทนจำนวนมากเมื่อสิ้นสุดสัญญา แต่ลืมนึกไปว่าเบี้ยประกันต้องจ่ายนานหลายปี ทำให้หากเกิดเหตุฉุกเฉินในระหว่างนี้ก็จ่ายค่าเบี้ยต่อไม่ไหว สุดท้ายก็ไม่พ้นต้องเวนคืนกรมธรรม์ ต้องเสียโอกาสความคุ้มครองโรคร้ายที่ควรได้รับอีกด้วยครับ

 

3. เลือกจากประเภทของประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพมี 5 ประเภท ได้แก่
  • ประกันสุขภาพ OPD
    ประกันกลุ่มนี้เน้นความคุ้มครองเฉพาะโรคเล็กๆ น้อยๆ  เช่น ปวดหัว ตัวร้อน ท้องเสีย หรือเป็นโรคที่ต้องรอสังเกตอาการน้อยกว่า 6 ชั่วโมง แพทย์ผู้ทำการรักษามักจะจ่ายยา ให้กลับบ้านได้เลย และส่วนมากวงเงินความคุ้มครองของประกัน OPD มักไม่สูง
  • ประกันสุขภาพ IPD
    หากต้องการความคุ้มครองกรณีที่ต้องรักษาอาการป่วยหนัก ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานหลายวัน เราแนะนำให้ทำประกัน IPD ซึ่งเสนอความคุ้มครองหลากหลายไม่ว่าจะเป็นค่าห้องพัก ค่าผ่าตัด หรือค่าเอกซเรย์ ทำให้วงเงินความคุ้มครองของประกัน IPD จึงสูงกว่าประกัน OPD
  • ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง
    ในกรณีที่เพื่อน ๆ มีสิทธิ์ความคุ้มครองของประกันกลุ่มจากบริษัทที่ทำงานอยู่แล้ว และสนใจทำประกันเพิ่มเติม ก็แนะนำให้ทำประกันสุขภาพโรคร้ายแรง เพราะประกันกลุ่มนี้เน้นคุ้มครองโรคที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวาน

 

 

4. ประกันอุบัติเหตุ

หรือเรียกอีกชื่อว่าประกัน PA เป็นประกันสุขภาพที่เน้นคุ้มครองอุบัติเหตุโดยเฉพาะ ส่วนมากจะจ่ายเบี้ยคงที่ หรือจ่ายค่าเบี้ยเพียงครั้งเดียวแต่ให้ความคุ้มครองตลอดช่วงอายุสัญญาของกรมธรรม์ ตัวอย่างของความคุ้มครองของประกันอุบัติเหตุ เช่น ไฟไหม้, น้ำร้อนลวก หรือกระดูกหัก เป็นต้น

 

5. ประกันสุขภาพแบบชดเชยรายได้

ถ้ากังวลว่าต้องหยุดงานไปแล้วจะไม่มีรายได้ ก็แนะนำให้ทำประกันชนิดนี้ครับ เพราะในกรณีที่คุณอยู่ในระหว่างการนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล นอกจากไม่ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลแล้ว ยังได้รับการชดเชยรายได้รายวันอีกด้วย

 

 

เลือกประกันสุขภาพอันไหนดีให้ตอบโจทย์ความเสี่ยงที่ต้องการ
เลือกประกันสุขภาพอันไหนดีให้ตอบโจทย์ความเสี่ยงที่ต้องการ

 

ประโยชน์ของการทำประกันสุขภาพ

หลังจากทราบกันไปแล้วว่าควรเลือกประเภทผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพอันไหนดีถึงจะตอบโจทย์ความเสี่ยงที่คุณต้องการ ก็มารู้จักกับประโยชน์ของการทำประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองมากกว่าประกันสังคม และสิทธิบัตรทองกันได้เลย

 

1. เข้ารับการรักษาได้ทุกที่

ถ้าเพื่อน ๆ มีประกันสุขภาพ ก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปรักษาตัวในสถานพยาบาลที่มีสิทธิ์ ตัวอย่างเช่น โรงพยาบาลที่มีสิทธิ์ประกันสังคมอยู่ในเขตบางแค แต่ทำงานอยู่ในเขตวัฒนา แล้วสมมติว่าเกิดเหตุฉุกเฉินป่วยกะทันหัน การทำประกันสุขภาพเอาไว้ ก็ช่วยให้เพื่อน ๆ เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมกับบริษัทประกันในเขตวัฒนาได้ทันที

 

2. ได้รับการบริการที่รวดเร็ว

การเข้ารับบริการโรงพยาบาลสิทธิ์ประกันสังคม หรือสิทธิบัตรทองใช้เวลานานมาก กว่าจะเสร็จเผลอ ๆ เกินกว่าครึ่งวัน ซึ่งการรักษาโรคร้ายแรงบางอย่างเราไม่สามารถรอได้ขนาดนั้น เพราะอาจเกิดเหตุป่วยฉับพลันระหว่างรอรับการรักษา เมื่อถึงมือหมอแล้วกลายเป็นว่าไม่ทันการณ์ อาการของโรคอาจรุนแรงยิ่งขึ้น จนไม่สามารถหายจากอาการป่วยได้ในที่สุด

 

3. เงินชดเชยรายวัน

สำหรับใครที่ทำงานเป็นพ่อค้า-แม่ค้ารับเงินรายวัน ไม่ควรพลาดเด็ดขาด เพราะประกันสุขภาพนอกจากให้บริการที่รวดเร็ว รักษาได้แทบทุกที่แล้ว ยังให้สิทธิประโยชน์จ่ายเงินชดเชยรายวันอีกด้วย ทำให้แม้ป่วยอยู่ก็มีเงินจ่ายค่าต่าง ๆ ในครอบครัว ทำให้การเงินไม่มีสะดุด ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินสำหรับเป็นเงินหมุนธุรกิจอีกด้วย

 

 

เหตุผลหลักที่ควรมีประกันสุขภาพ
เหตุผลหลักที่ควรมีประกันสุขภาพ

 

3 เหตุผลหลักที่ควรมีประกันสุขภาพ

หลังจากทราบแล้วว่าควรเลือกประกันสุขภาพตัวไหนดี มาดูประโยชน์ของการทำประกันสุขภาพดีกว่าประกันสังคม และสิทธิบัตรทองอย่างไร มาดู 3 เหตุผลหลักอื่น ๆ ว่าทำไมทุกคนควรทำประกันสุขภาพอย่างน้อย 1 กรมธรรม์

 

1. วางแผนการเงินได้

หากเก็บเงินไม่อยู่ เพื่อนๆ อาจแก้ปัญหาด้วยการทำประกันสุขภาพแบบคืนเบี้ย ซึ่งเป็นประกันที่บังคับให้คุณออมเงินเป็นประจำ เมื่อครบกำหนดสัญญาก็สามารถรับเงินคืนพร้อมได้รับความคุ้มครองด้านสุขภาพในระหว่างอยู่ในสัญญาอีกด้วย

 

2. มีผู้ช่วยคอยดูแล

ประกันสุขภาพยังให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมอื่น ๆ เปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้คุณเกิดโรคร้ายขึ้น เช่น บริการตรวจสุขภาพฟรีประจำปี หรือการฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ และหากป่วยเรื้อรัง ถึงขั้นต้องมารักษาตัวต่อเนื่อง ประกันสุขภาพก็พร้อมออกค่าใช้จ่ายในกรณีที่แพทย์นัดติดตามอาการด้วย

 

3. ได้แบบ 2 ต่อ คุ้มครองสุขภาพ และลดหย่อนภาษี

ประกันสุขภาพนอกจากเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยในการวางแผนการเงินส่วนบุคคลให้มีเงินเก็บบั้นปลายชีวิตแล้ว ยังให้ความคุ้มครองสุขภาพเพิ่มเติมโดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ารักษาพยาบาลกลุ่มโรคร้ายแรง ที่มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก และเพื่อน ๆ คนไหนที่มีรายได้อยู่ในเกณฑ์ต้องเสียภาษี ก็สามารถทำประกันสุขภาพเพื่อขอสิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน ซึ่งลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาท


 

ประกันสุขภาพแบบไหนดี เคลมง่าย คุ้มครองครอบคลุม
ประกันสุขภาพแบบไหนดี เคลมง่าย คุ้มครองครอบคลุม

 

5 ประกันสุขภาพ เคลมง่าย คุ้มครองครอบคลุม

เมื่อทราบถึงข้อดีของประกันสุขภาพกันไปแล้ว และสนใจทำประกันสุขภาพ แต่ไม่รู้ว่าควรเลือกผลิตภัณฑ์ตัวไหนดี ไม่ต้องห่วง! เพราะเราได้รวบรวม 6 ประกันคุณภาพจากธนาคารกรุงศรีมาเสิร์ฟถึงมือคุณแล้ว


 

กรุงศรีประกันสุขภาพตามใจ พลัส
กรุงศรีประกันสุขภาพตามใจ พลัส

 

1. กรุงศรีประกันสุขภาพตามใจ พลัส

รับประกันโดย บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

จุดเด่นผลิตภัณฑ์
  1. คุ้มครอง 48 กลุ่มโรคร้ายแรงกลุ่มค่ารักษาสูง เช่น มะเร็งระยะลุกลาม, ไตวายเรื้อรัง หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจ
  2. สามารถเลือกค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) ได้ตั้งแต่ 1,000 - 4,000 บาท และเงินชดเชยเมื่อแอดมิดในฐานะผู้ป่วยในตั้งแต่ 500 - 3,000 บาท
  3. ออกแบบความคุ้มครองสุขภาพได้ตามใจชอบ ณ วันครบรอบปีกรมธรรม์
  4. เลือกจ่ายเบี้ยได้ตั้งแต่รายเดือน รายครึ่งปี และรายปี


ความคุ้มครอง

  1. ความคุ้มครองด้านสุขภาพ ตั้งแต่ 1 ล้านบาท - 30 ล้านบาท
  2. ความคุ้มครองชีวิต : รับเงินก้อนกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุ หรือรับเงินคืนเมื่อครบกำหนดสัญญา 100,000 บาท หรือ 600,000 บาทหรือ 1,000,000 บาท (เลือกจำนวนใดจำนวนหนึ่ง)
  3. ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก 1,000 บาท หรือ 2,000 บาท หรือ 4,000 บาท (เลือกจำนวนใดจำนวนหนึ่ง)
  4. ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลรายวัน 500 บาท หรือ 1,500 บาท หรือ 3,000 บาท (เลือกจำนวนใดจำนวนหนึ่ง)
  5. ความคุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง 48 โรค
    • กรณีเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตด้วยโรคร้ายแรง 1 ใน 43 โรค (ลำดับที่ 1 - 43) รับเงินก้อน  1 ล้านบาท
    • กรณีเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด  รับเงินก้อน 500,000 บาท
    • กรณีเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตจากโรคที่ 45 – 48 ซึ่งให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันภัยถึงอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ รับเงินก้อน 500,000 บาท

ราคา
คำนวณตามอายุ และความเสี่ยงของผู้ถือกรมธรรม์

ช่องทางการซื้อประกัน

  1. สมัครผ่านธนาคารกรุงศรีทุกสาขา
  2. เว็บไซต์ https://www.krungsri.com/th/personal/bancassurance/health-insurance/tamjai-plus#section4


 

กรุงศรีประกันสุขภาพ ลักซ์ชัวรี่ เฮลท์
กรุงศรีประกันสุขภาพ ลักซ์ชัวรี่ เฮลท์

 

2. กรุงศรีประกันสุขภาพ ลักซ์ชัวรี่ เฮลท์

รับประกันโดย บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)


จุดเด่นผลิตภัณฑ์

  1. ให้ความคุ้มครองจนถึงอายุ 85 ปี พร้อมรับเงินก้อนกรณีเสียชีวิต หรือเมื่อครบกำหนดสัญญา
  2. ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 1 แสนบาท
  3. จ่ายค่ารักษาพยาบาลครอบคลุม ในกรณีเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน, ผู้ป่วยนอก, ทันตกรรม,รักษาโรคทางสายตา, การคลอดบุตร รวมไปถึงค่าผ่าตัด,แล็บ,เอ็กซเรย์, ล้างไต, เคมีบำบัด,โรคทางจิตเวช, การรักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า และอุบัติเหตุฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง
  4. ค่าใช้จ่ายในกรณีที่แพทย์นัดติดตามอาการ
  5. ค่ารักษาเชิงป้องกัน ก่อนเกิดโรคร้าย เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี, การฉีดวัคซีน, การตรวจทันตกรรม และการตรวจสายตา
  6. ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูร่างกาย เช่น เวชศาสตร์ฟื้นฟู, กายภาพบำบัด และกิจกรรมบำบัด
  7. เลือกชำระเบี้ยประกันภัยได้ตั้งแต่ รายเดือน, 3 เดือน, 6 เดือน และรายปี


ความคุ้มครอง

  1. ความคุ้มครองชีวิต: เมื่อเสียชีวิตรับเงินก้อนทันที 50,000 บาท
  2. ความคุ้มครองด้านสุขภาพ : เลือกได้ตั้งแต่ 75 ล้าน หรือ 110 ต่อปีกรมธรรม์


ราคา
คำนวณตามอายุ และความเสี่ยงของผู้ถือกรมธรรม์

ช่องทางการซื้อประกัน

  1. สมัครผ่านธนาคารกรุงศรีทุกสาขา
  2. เว็บไซต์ https://www.krungsri.com/th/personal/bancassurance/health-insurance/tamjai-plus#section4


 

ประกันกรุงศรี 3โรคฮิต พลัส
ประกันกรุงศรี 3โรคฮิต พลัส

 

3. ประกันกรุงศรี 3โรคฮิต พลัส

รับประกันภัยโดย บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จำกัด (มหาชน)


จุดเด่นผลิตภัณฑ์
  1. คุ้มมครอง 3 โรคฮิตของคนไทย ได้แก่ 1.โรคอาหารเป็นพิษ, 2.โรคไข้เลือดออก 3.โรคไข้หวัดใหญ่
  2. จ่ายเบี้ยคงที่เริ่มต้น 1,200 บาท
  3. พร้อมจ่ายเงินค่าชดเชยในกรณีเกิดอุบัติเหตุ


ความคุ้มครอง

  1. ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลรายวันในกรณีแอดมิดเป็นผู้ป่วยใน : อันเนื่องมาจากการบาดเจ็บอุบัติเหตุ และการเจ็บป่วยของ 3 โรคฮิต วันละ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 365 วัน
  2. ความคุ้มครองอุบัติเหตุ (อบ.1) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา และทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 50,000 บาท
  3. ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลอันเนื่องมาจากการเจ็บป่วยเฉพาะโรค
  4. ค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน ต่อครั้ง 25,000 บาทค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน ต่อปี 50,000 บาท
  5. ค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 15 ครั้งต่อปี

ราคา
ช่วงอายุ                    ค่าเบี้ยประกันภัย
1 เดือน - 20 ปี            1,500 บาท
21 - 50 ปี                  1,200 บาท
51 - 60 ปี                  1,500 บาท
61 - 70 ปี                  3,000 บาท
71 - 79 ปี (เฉพาะรายต่ออายุเท่านั้น) 3,000 บาท

ช่องทางการซื้อประกัน


 

ประกันกรุงศรี แคนเซอร์ พร้อม
ประกันกรุงศรี แคนเซอร์ พร้อม

 

4. กรุงศรี แคนเซอร์ พร้อม

รับประกันภัยโดย บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จำกัด (มหาชน)

จุดเด่นผลิตภัณฑ์
  1. คุ้มครองมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะเมื่อตรวจพบเจอ (ยกเว้นมะเร็งผิวหนัง)
  2. จ่ายเบี้ยประกันเพียงครั้งเดียว คุ้มครองนานถึงอายุ 65 ปี


ความคุ้มครอง
ตรวจพบมะเร็งครั้งแรก รับเงินก้อนไปเลย 200,000 บาท

ราคา
1,999 บาท

ช่องทางการซื้อประกัน

  1. สมัครผ่านธนาคารกรุงศรีทุกสาขา
  2. สมัครประกันผ่าน Krungsri Mobile App
  3. เว็บไซต์ https://www.krungsri.com/th/personal/bancassurance/health-insurance/krungsri-cancer-prompt


 

ประกันทิพยเรนโบว์แคร์
ประกันทิพยเรนโบว์แคร์

 

5. ประกันทิพยเรนโบว์แคร์

รับประกันโดย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

  • ค่าห้องพยาบาล ICU/CCU จ่ายให้ตามจริงสูงสุด 365 วัน ไม่จำกัดวงเงินต่อวัน
  • ชดเชยรายได้รายวันขณะนอนพักรักษาตัว
  • คุ้มครองกรณีเดินทางไปต่างประเทศ
  • ครอบคลุมค่าบริการตรวจสุขภาพทุกชนิด และค่าฉีดวัคซีนป้องกันทุกโรค
  • ออกแบบแผนความคุ้มครองได้ตามที่ต้องการ
  • ครอบคลุมค่าศัลยกรรมเสริมความสวยงาม จากอุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วยที่ต้องผ่าตัด
  • จ่ายค่ารักษาแบบเหมาจ่ายตามจริง


ความคุ้มครอง

  • ความคุ้มครองประกันภัยสุขภาพส่วนบุคคล สูงสุด 3 ล้านบาท
  • ความคุ้มครองผลประโยชน์เงินชดเชยรายวัน สูงสุด 2,000 บาท
  • ความคุ้มครองค่าบริการสำหรับการตรวจสุขภาพหรือการฉีดวัคซีน สูงสุด 5,000 บาท
  • ความคุ้มครองประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล สูงสุด 50,000 บาท
  • ความคุ้มครองผลประโยชน์ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดศัลยกรรมอันเนื่องมาจากการรักษาพยาบาลทางการแพทย์ สูงสุด 50,000 บาท


ราคา
ช่วงอายุ              เบี้ยประกันรายปีเริ่มต้น (สำหรับแผน 1)
15 - 30 ปี                 11,015 บาท
31-40 ปี                    13,800 บาท
41-50 ปี                    15,583 บาท
51 - 60 ปี                  21,205 บาท
61-70 ปี                    28,986 บาท
71 - 80 ปี (ต่ออายุเท่านั้น)    37,289 บาท

ช่องทางการซื้อประกัน

  1. สมัครผ่าน Krungsri Mobile App
  2. เว็บไซต์ https://www.krungsri.com/th/personal/bancassurance/health-insurance/tip-rain-bow-care

หวังว่าเพื่อนๆ คงจะได้รับคำตอบแล้วว่าควรเลือกทำประกันสุขภาพแบบไหนดีถึงจะใช่ และตรงใจมากที่สุด ซึ่งการทำประกันสุขภาพถือเป็นการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตนเอง จากการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพ และประวัติการเป็นโรคของคนในครอบครัว

เลือกความคุ้มครองที่ใช่ ตรงกับไลฟ์สไตล์และการดำเนินชีวิต นับเป็นความคุ้มค่าที่ควรลงทุน เพราะความเสี่ยงเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ แต่เราสามารถลดความรุนแรง หรือผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีและสบายใจขึ้น ด้วยการเลือกซื้อประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการ พร้อมทั้งให้บัตรเครดิต กรุงศรี แพลทินัม ช่วยดูแลเรื่องความคุ้มค่า จ่ายเบี้ยประกันผ่าน บัตรเครดิต กรุงศรี แพลทินัม รับสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นบัตรเครดิตมากมาย

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด



บัตรเครดิต กรุงศรี วีซ่า แพลทินัม