ประกันสุขภาพแบบไหนดี พร้อมวิธีเลือกให้ครอบคลุม
เมื่อพูดถึงการทำประกันสุขภาพเพื่อน ๆ มักไม่ให้ความสนใจ เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น จากความคิดว่ามีประกันสังคม หรือสิทธิบัตรทอง 30 บาทอยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าประกันสุขภาพมีความสำคัญมากกว่าที่คิด เพราะโรคภัยในปัจจุบันเกิดขึ้นกับเราได้ตลอดเวลา จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้มีโอกาสเป็นโรคร้ายอย่างโรคมะเร็ง หรือโรคหัวใจ ได้ง่ายขึ้น
หากเกิดโรคร้ายแรงแล้ว เงินเก็บที่อุตส่าห์ตั้งใจออมไว้ ต้องนำไปใช้จ่ายรักษาตัว จนไม่สามารถวางแผนเกษียณได้ตามที่ต้องการ ด้วยเหตุนี้เราจึงนำประกันสุขภาพดี ๆ มาฝากทุกคนที่ไม่รู้ว่าควรเลือกประกันสุขภาพแบบไหนดีที่ใช่ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ตนเอง และคนข้างหลัง พร้อมนำวิธีการเลือกซื้อประกันมาฝากเพื่อนๆ ทุกคนอีกด้วย!
วิธีการเลือกประกันสุขภาพ
ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพมีตัวเลือกมากมาย ทำให้เพื่อนๆ ที่สนใจทำประกันครั้งแรก ไม่รู้ว่าควรทำประกันสุขภาพอันไหนดี และก่อนเลือกซื้อต้องดูจากอะไร? วันนี้เรานำเทคนิคดี ๆ มาให้ทุกคนรู้กันแล้ว
1. เลือกจากวงเงินความคุ้มครอง
วงเงินความคุ้มครองอธิบายง่าย ๆ คือ จำนวนเงินสูงสุดที่เราจะได้รับในการรักษาพยาบาลในกรณีที่ต้องรักษาตัวในโรคนั้น ๆ ยิ่งวงเงินสูง ๆ ก็มั่นใจได้ว่าจะมีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลอย่างครอบคลุมเพียงพอ ไม่ต้องจ่ายเงินส่วนตัวเพิ่มเข้าไป
2. เลือกจากเบี้ยประกัน
ก่อนทำประกันสุขภาพอยากให้เพื่อนๆ ลองเช็กสุขภาพการเงินครับว่าจ่ายเบี้ยประกันไหวไหม? เพราะหลายคนจ่ายเบี้ยสูง ๆ จากการคาดหวังผลตอบแทนจำนวนมากเมื่อสิ้นสุดสัญญา แต่ลืมนึกไปว่าเบี้ยประกันต้องจ่ายนานหลายปี ทำให้หากเกิดเหตุฉุกเฉินในระหว่างนี้ก็จ่ายค่าเบี้ยต่อไม่ไหว สุดท้ายก็ไม่พ้นต้องเวนคืนกรมธรรม์ ต้องเสียโอกาสความคุ้มครองโรคร้ายที่ควรได้รับอีกด้วยครับ
3. เลือกจากประเภทของประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพมี 5 ประเภท ได้แก่
- ประกันสุขภาพ OPD
ประกันกลุ่มนี้เน้นความคุ้มครองเฉพาะโรคเล็กๆ น้อยๆ เช่น ปวดหัว ตัวร้อน ท้องเสีย หรือเป็นโรคที่ต้องรอสังเกตอาการน้อยกว่า 6 ชั่วโมง แพทย์ผู้ทำการรักษามักจะจ่ายยา ให้กลับบ้านได้เลย และส่วนมากวงเงินความคุ้มครองของประกัน OPD มักไม่สูง
- ประกันสุขภาพ IPD
หากต้องการความคุ้มครองกรณีที่ต้องรักษาอาการป่วยหนัก ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานหลายวัน เราแนะนำให้ทำประกัน IPD ซึ่งเสนอความคุ้มครองหลากหลายไม่ว่าจะเป็นค่าห้องพัก ค่าผ่าตัด หรือค่าเอกซเรย์ ทำให้วงเงินความคุ้มครองของประกัน IPD จึงสูงกว่าประกัน OPD
- ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง
ในกรณีที่เพื่อน ๆ มีสิทธิ์ความคุ้มครองของประกันกลุ่มจากบริษัทที่ทำงานอยู่แล้ว และสนใจทำประกันเพิ่มเติม ก็แนะนำให้ทำประกันสุขภาพโรคร้ายแรง เพราะประกันกลุ่มนี้เน้นคุ้มครองโรคที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวาน
4. ประกันอุบัติเหตุ
หรือเรียกอีกชื่อว่าประกัน PA เป็นประกันสุขภาพที่เน้นคุ้มครองอุบัติเหตุโดยเฉพาะ ส่วนมากจะจ่ายเบี้ยคงที่ หรือจ่ายค่าเบี้ยเพียงครั้งเดียวแต่ให้ความคุ้มครองตลอดช่วงอายุสัญญาของกรมธรรม์ ตัวอย่างของความคุ้มครองของประกันอุบัติเหตุ เช่น ไฟไหม้, น้ำร้อนลวก หรือกระดูกหัก เป็นต้น
5. ประกันสุขภาพแบบชดเชยรายได้
ถ้ากังวลว่าต้องหยุดงานไปแล้วจะไม่มีรายได้ ก็แนะนำให้ทำประกันชนิดนี้ครับ เพราะในกรณีที่คุณอยู่ในระหว่างการนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล นอกจากไม่ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลแล้ว ยังได้รับการชดเชยรายได้รายวันอีกด้วย
ประโยชน์ของการทำประกันสุขภาพ
หลังจากทราบกันไปแล้วว่าควรเลือกประเภทผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพอันไหนดีถึงจะตอบโจทย์ความเสี่ยงที่คุณต้องการ ก็มารู้จักกับประโยชน์ของการทำประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองมากกว่าประกันสังคม และสิทธิบัตรทองกันได้เลย
1. เข้ารับการรักษาได้ทุกที่
ถ้าเพื่อน ๆ มีประกันสุขภาพ ก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปรักษาตัวในสถานพยาบาลที่มีสิทธิ์ ตัวอย่างเช่น โรงพยาบาลที่มีสิทธิ์ประกันสังคมอยู่ในเขตบางแค แต่ทำงานอยู่ในเขตวัฒนา แล้วสมมติว่าเกิดเหตุฉุกเฉินป่วยกะทันหัน การทำประกันสุขภาพเอาไว้ ก็ช่วยให้เพื่อน ๆ เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมกับบริษัทประกันในเขตวัฒนาได้ทันที
2. ได้รับการบริการที่รวดเร็ว
การเข้ารับบริการโรงพยาบาลสิทธิ์ประกันสังคม หรือสิทธิบัตรทองใช้เวลานานมาก กว่าจะเสร็จเผลอ ๆ เกินกว่าครึ่งวัน ซึ่งการรักษาโรคร้ายแรงบางอย่างเราไม่สามารถรอได้ขนาดนั้น เพราะอาจเกิดเหตุป่วยฉับพลันระหว่างรอรับการรักษา เมื่อถึงมือหมอแล้วกลายเป็นว่าไม่ทันการณ์ อาการของโรคอาจรุนแรงยิ่งขึ้น จนไม่สามารถหายจากอาการป่วยได้ในที่สุด
3. เงินชดเชยรายวัน
สำหรับใครที่ทำงานเป็นพ่อค้า-แม่ค้ารับเงินรายวัน ไม่ควรพลาดเด็ดขาด เพราะประกันสุขภาพนอกจากให้บริการที่รวดเร็ว รักษาได้แทบทุกที่แล้ว ยังให้สิทธิประโยชน์จ่ายเงินชดเชยรายวันอีกด้วย ทำให้แม้ป่วยอยู่ก็มีเงินจ่ายค่าต่าง ๆ ในครอบครัว ทำให้การเงินไม่มีสะดุด ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินสำหรับเป็นเงินหมุนธุรกิจอีกด้วย
3 เหตุผลหลักที่ควรมีประกันสุขภาพ
หลังจากทราบแล้วว่าควรเลือกประกันสุขภาพตัวไหนดี มาดูประโยชน์ของการทำประกันสุขภาพดีกว่าประกันสังคม และสิทธิบัตรทองอย่างไร มาดู 3 เหตุผลหลักอื่น ๆ ว่าทำไมทุกคนควรทำประกันสุขภาพอย่างน้อย 1 กรมธรรม์
1. วางแผนการเงินได้
หากเก็บเงินไม่อยู่ เพื่อนๆ อาจแก้ปัญหาด้วยการทำประกันสุขภาพแบบคืนเบี้ย ซึ่งเป็นประกันที่บังคับให้คุณออมเงินเป็นประจำ เมื่อครบกำหนดสัญญาก็สามารถรับเงินคืนพร้อมได้รับความคุ้มครองด้านสุขภาพในระหว่างอยู่ในสัญญาอีกด้วย
2. มีผู้ช่วยคอยดูแล
ประกันสุขภาพยังให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมอื่น ๆ เปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้คุณเกิดโรคร้ายขึ้น เช่น บริการตรวจสุขภาพฟรีประจำปี หรือการฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ และหากป่วยเรื้อรัง ถึงขั้นต้องมารักษาตัวต่อเนื่อง ประกันสุขภาพก็พร้อมออกค่าใช้จ่ายในกรณีที่แพทย์นัดติดตามอาการด้วย
3. ได้แบบ 2 ต่อ คุ้มครองสุขภาพ และลดหย่อนภาษี
ประกันสุขภาพนอกจากเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยในการวางแผนการเงินส่วนบุคคลให้มีเงินเก็บบั้นปลายชีวิตแล้ว ยังให้ความคุ้มครองสุขภาพเพิ่มเติมโดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ารักษาพยาบาลกลุ่มโรคร้ายแรง ที่มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก และเพื่อน ๆ คนไหนที่มีรายได้อยู่ในเกณฑ์ต้องเสียภาษี ก็สามารถทำประกันสุขภาพเพื่อขอสิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน ซึ่งลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาท
5 ประกันสุขภาพ เคลมง่าย คุ้มครองครอบคลุม
เมื่อทราบถึงข้อดีของประกันสุขภาพกันไปแล้ว และสนใจทำประกันสุขภาพ แต่ไม่รู้ว่าควรเลือกผลิตภัณฑ์ตัวไหนดี ไม่ต้องห่วง! เพราะเราได้รวบรวม 6 ประกันคุณภาพจากธนาคารกรุงศรีมาเสิร์ฟถึงมือคุณแล้ว
1. กรุงศรีประกันสุขภาพตามใจ พลัส
รับประกันโดย บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
- คุ้มครอง 48 กลุ่มโรคร้ายแรงกลุ่มค่ารักษาสูง เช่น มะเร็งระยะลุกลาม, ไตวายเรื้อรัง หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจ
- สามารถเลือกค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) ได้ตั้งแต่ 1,000 - 4,000 บาท และเงินชดเชยเมื่อแอดมิดในฐานะผู้ป่วยในตั้งแต่ 500 - 3,000 บาท
- ออกแบบความคุ้มครองสุขภาพได้ตามใจชอบ ณ วันครบรอบปีกรมธรรม์
- เลือกจ่ายเบี้ยได้ตั้งแต่รายเดือน รายครึ่งปี และรายปี
ความคุ้มครอง
- ความคุ้มครองด้านสุขภาพ ตั้งแต่ 1 ล้านบาท - 30 ล้านบาท
- ความคุ้มครองชีวิต : รับเงินก้อนกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุ หรือรับเงินคืนเมื่อครบกำหนดสัญญา 100,000 บาท หรือ 600,000 บาทหรือ 1,000,000 บาท (เลือกจำนวนใดจำนวนหนึ่ง)
- ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก 1,000 บาท หรือ 2,000 บาท หรือ 4,000 บาท (เลือกจำนวนใดจำนวนหนึ่ง)
- ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลรายวัน 500 บาท หรือ 1,500 บาท หรือ 3,000 บาท (เลือกจำนวนใดจำนวนหนึ่ง)
- ความคุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง 48 โรค
- กรณีเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตด้วยโรคร้ายแรง 1 ใน 43 โรค (ลำดับที่ 1 - 43) รับเงินก้อน 1 ล้านบาท
- กรณีเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด รับเงินก้อน 500,000 บาท
- กรณีเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตจากโรคที่ 45 – 48 ซึ่งให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันภัยถึงอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ รับเงินก้อน 500,000 บาท
ราคา
คำนวณตามอายุ และความเสี่ยงของผู้ถือกรมธรรม์
ช่องทางการซื้อประกัน
- สมัครผ่านธนาคารกรุงศรีทุกสาขา
- เว็บไซต์ https://www.krungsri.com/th/personal/bancassurance/health-insurance/tamjai-plus#section4
2. กรุงศรีประกันสุขภาพ ลักซ์ชัวรี่ เฮลท์
รับประกันโดย บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
- ให้ความคุ้มครองจนถึงอายุ 85 ปี พร้อมรับเงินก้อนกรณีเสียชีวิต หรือเมื่อครบกำหนดสัญญา
- ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 1 แสนบาท
- จ่ายค่ารักษาพยาบาลครอบคลุม ในกรณีเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน, ผู้ป่วยนอก, ทันตกรรม,รักษาโรคทางสายตา, การคลอดบุตร รวมไปถึงค่าผ่าตัด,แล็บ,เอ็กซเรย์, ล้างไต, เคมีบำบัด,โรคทางจิตเวช, การรักษามะเร็งแบบมุ่งเป้า และอุบัติเหตุฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง
- ค่าใช้จ่ายในกรณีที่แพทย์นัดติดตามอาการ
- ค่ารักษาเชิงป้องกัน ก่อนเกิดโรคร้าย เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี, การฉีดวัคซีน, การตรวจทันตกรรม และการตรวจสายตา
- ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูร่างกาย เช่น เวชศาสตร์ฟื้นฟู, กายภาพบำบัด และกิจกรรมบำบัด
- เลือกชำระเบี้ยประกันภัยได้ตั้งแต่ รายเดือน, 3 เดือน, 6 เดือน และรายปี
ความคุ้มครอง
- ความคุ้มครองชีวิต: เมื่อเสียชีวิตรับเงินก้อนทันที 50,000 บาท
- ความคุ้มครองด้านสุขภาพ : เลือกได้ตั้งแต่ 75 ล้าน หรือ 110 ต่อปีกรมธรรม์
ราคา
คำนวณตามอายุ และความเสี่ยงของผู้ถือกรมธรรม์
ช่องทางการซื้อประกัน
- สมัครผ่านธนาคารกรุงศรีทุกสาขา
- เว็บไซต์ https://www.krungsri.com/th/personal/bancassurance/health-insurance/tamjai-plus#section4
3. ประกันกรุงศรี 3โรคฮิต พลัส
รับประกันภัยโดย บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จำกัด (มหาชน)
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
- คุ้มมครอง 3 โรคฮิตของคนไทย ได้แก่ 1.โรคอาหารเป็นพิษ, 2.โรคไข้เลือดออก 3.โรคไข้หวัดใหญ่
- จ่ายเบี้ยคงที่เริ่มต้น 1,200 บาท
- พร้อมจ่ายเงินค่าชดเชยในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
ความคุ้มครอง
- ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลรายวันในกรณีแอดมิดเป็นผู้ป่วยใน : อันเนื่องมาจากการบาดเจ็บอุบัติเหตุ และการเจ็บป่วยของ 3 โรคฮิต วันละ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 365 วัน
- ความคุ้มครองอุบัติเหตุ (อบ.1) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา และทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 50,000 บาท
- ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลอันเนื่องมาจากการเจ็บป่วยเฉพาะโรค
- ค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน ต่อครั้ง 25,000 บาทค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน ต่อปี 50,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 15 ครั้งต่อปี
ราคา
ช่วงอายุ ค่าเบี้ยประกันภัย
1 เดือน - 20 ปี 1,500 บาท
21 - 50 ปี 1,200 บาท
51 - 60 ปี 1,500 บาท
61 - 70 ปี 3,000 บาท
71 - 79 ปี (เฉพาะรายต่ออายุเท่านั้น) 3,000 บาท
ช่องทางการซื้อประกัน
4. กรุงศรี แคนเซอร์ พร้อม
รับประกันภัยโดย บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จำกัด (มหาชน)
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
- คุ้มครองมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะเมื่อตรวจพบเจอ (ยกเว้นมะเร็งผิวหนัง)
- จ่ายเบี้ยประกันเพียงครั้งเดียว คุ้มครองนานถึงอายุ 65 ปี
ความคุ้มครอง
ตรวจพบมะเร็งครั้งแรก รับเงินก้อนไปเลย 200,000 บาท
ราคา
1,999 บาท
ช่องทางการซื้อประกัน
- สมัครผ่านธนาคารกรุงศรีทุกสาขา
- สมัครประกันผ่าน Krungsri Mobile App
- เว็บไซต์ https://www.krungsri.com/th/personal/bancassurance/health-insurance/krungsri-cancer-prompt
5. ประกันทิพยเรนโบว์แคร์
รับประกันโดย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)
จุดเด่นผลิตภัณฑ์
- ค่าห้องพยาบาล ICU/CCU จ่ายให้ตามจริงสูงสุด 365 วัน ไม่จำกัดวงเงินต่อวัน
- ชดเชยรายได้รายวันขณะนอนพักรักษาตัว
- คุ้มครองกรณีเดินทางไปต่างประเทศ
- ครอบคลุมค่าบริการตรวจสุขภาพทุกชนิด และค่าฉีดวัคซีนป้องกันทุกโรค
- ออกแบบแผนความคุ้มครองได้ตามที่ต้องการ
- ครอบคลุมค่าศัลยกรรมเสริมความสวยงาม จากอุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วยที่ต้องผ่าตัด
- จ่ายค่ารักษาแบบเหมาจ่ายตามจริง
ความคุ้มครอง
- ความคุ้มครองประกันภัยสุขภาพส่วนบุคคล สูงสุด 3 ล้านบาท
- ความคุ้มครองผลประโยชน์เงินชดเชยรายวัน สูงสุด 2,000 บาท
- ความคุ้มครองค่าบริการสำหรับการตรวจสุขภาพหรือการฉีดวัคซีน สูงสุด 5,000 บาท
- ความคุ้มครองประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล สูงสุด 50,000 บาท
- ความคุ้มครองผลประโยชน์ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดศัลยกรรมอันเนื่องมาจากการรักษาพยาบาลทางการแพทย์ สูงสุด 50,000 บาท
ราคา
ช่วงอายุ เบี้ยประกันรายปีเริ่มต้น (สำหรับแผน 1)
15 - 30 ปี 11,015 บาท
31-40 ปี 13,800 บาท
41-50 ปี 15,583 บาท
51 - 60 ปี 21,205 บาท
61-70 ปี 28,986 บาท
71 - 80 ปี (ต่ออายุเท่านั้น) 37,289 บาท
ช่องทางการซื้อประกัน
- สมัครผ่าน Krungsri Mobile App
- เว็บไซต์ https://www.krungsri.com/th/personal/bancassurance/health-insurance/tip-rain-bow-care
หวังว่าเพื่อนๆ คงจะได้รับคำตอบแล้วว่าควรเลือกทำประกันสุขภาพแบบไหนดีถึงจะใช่ และตรงใจมากที่สุด ซึ่งการทำประกันสุขภาพถือเป็นการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตนเอง จากการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพ และประวัติการเป็นโรคของคนในครอบครัว
เลือกความคุ้มครองที่ใช่ ตรงกับไลฟ์สไตล์และการดำเนินชีวิต นับเป็นความคุ้มค่าที่ควรลงทุน เพราะความเสี่ยงเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ แต่เราสามารถลดความรุนแรง หรือผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีและสบายใจขึ้น ด้วยการเลือกซื้อประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการ พร้อมทั้งให้บัตรเครดิต กรุงศรี แพลทินัม ช่วยดูแลเรื่องความคุ้มค่า จ่ายเบี้ยประกันผ่าน บัตรเครดิต กรุงศรี แพลทินัม รับสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นบัตรเครดิตมากมาย
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด