10 แท็บเล็ตวาดรูปยี่ห้อไหนดีสเปคแรง ราคาดี 2024
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้อาชีพศิลปินออนไลน์หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Digital Artists” มาแรงแซงทางโค้ง จากการเติบโตของวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์อย่างก้าวกระโดด ซึ่งเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ต่างต้องการจ้างเหล่าศิลปินเพื่อสร้างสรรค์ผลงานสุดอาร์ตประกอบสตอรี่ช่องของตนเอง และการสร้างผลงานภาพวาดออนไลน์จะขาดสิ่งสำคัญอย่างแท็บเล็ตวาดภาพอุปกรณ์คู่ใจไปไม่ได้แน่นอน
ด้วยเหตุนี้เองทำให้แท็บเล็ตวาดภาพเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง มีการออกรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นในทุกปี เราจึงได้นำเทคนิคการเลือกแท็บเล็ตวาดภาพมาแนะนำแก่เหล่าศิลปินที่กำลังมองหาแท็บเล็ตที่ช่วยให้รังสรรค์ผลงานชิ้นเอก และวาดรูปได้อย่างลงตัว รับรองว่าได้แท็บเล็ตดีๆ ไปใช้งาน ไม่ต้องเปลี่ยนใหม่บ่อย ๆ เลยล่ะ!
แนะนํา 10 แท็บเล็ตวาดวาดภาพยี่ห้อไหนดี แห่งปี 2024
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีกว่าแท็บเล็ตวาดภาพในท้องตลาดมีหลายแบรนด์ไม่ว่าจะเป็น Apple, Samsung, Huawei ฯลฯ หลายคนที่กำลังเลือกซื้อแท็บเล็ตวาดภาพต่างไม่รู้ว่าควรเลือกแบรนด์ใดดีถึงจะใช่ และตรงตามความต้องการมากที่สุด เราจึงขอแนะนํา 10 แท็บเล็ตวาดรูปมาฝากทุกคนกัน
1. แท็บเล็ตวาดวาดภาพ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว
แท็บเล็ตดีไซน์เรียบหรู ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% หน้าจอออกแบบมาเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนจากปากกา Apple Pencil และ UI สามารถปรับระดับแสงใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อม
- จุดเด่น
แท็บเล็ตวาดภาพอันดับหนึ่งในดวงใจของบรรดานักวาดรูปออนไลน์ ด้วยชิปเซ็ต M2 อันทรงพลัง พร้อมฟีเจอร์ Apple pencil Hover ช่วยให้ปากกาสัมผัสกับหน้าจอได้อย่างลื่นไหล ไร้รอยต่อ ให้รายละเอียดการวาดรูปได้อย่างแม่นยำ ที่สร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกสุดยูนีคได้ไม่ยาก
- ขนาดหน้าจอแสดงผล
หน้าจอ Liquid Retina XDR 12.9 นิ้ว
- ความละเอียดหน้าจอ
2732 x 2048 พิกเซล
- ชิปประมวลผลข้อมูล
Apple M2 8 คอร์
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล
- 128 GB, 256 GB, 512 GB (สำหรับ RAM ขนาด 8 GB)
- 1 TB และ 2 TB (สำหรับ RAM ขนาด 16 GB)
- ความจุแบตเตอรี่
10,758 mAh (40.88 Wh)
2. Apple iPad Air 10.9-inch
แท็บเล็ตวาดภาพน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบการวาดภาพนอกสถานที่พกพาได้อย่างสะดวก มีสีสันให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นสีฟ้า, ชมพู, ม่วง, สตาร์ไลท์ และเทาสเปซเกรย์
- จุดเด่น
แท็บเล็ตวาดภาพที่มีประสิทธิภาพทรงพลังด้วยชิปเซ็ต M1 ประหยัดพลังงานในระดับสูง แสดงผลหน้าจอสีสันหน้าจออย่างเป็นธรรมชาติด้วยฟีเจอร์ True Tone มาพร้อมกับการเคลือบกันรอยนิ้วมือช่วยให้ศิลปินไม่ต้องคอยเช็ดหน้าจอบ่อย ๆ และรองรับพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB - C ทำให้ใช้งานควบคู่ไปอุปกรณ์เสริม External ได้มากกว่าเดิม
- ขนาดหน้าจอแสดงผล
Liquid Retina 10.9 นิ้ว
- ความละเอียดหน้าจอ
2360 x 1640 พิกเซล
- ชิปประมวลผลข้อมูล
A14 Bionic
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล
64GB, 256GB
3. แท็บเล็ตวาดวาดภาพ HUAWEI MatePad Pro 13.2
แท็บเล็ตวาดภาพสัญชาติจีน รุ่นเรือธงจากค่าย Huawei ที่เพิ่งเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เหมาะแก่เหล่าศิลปินผู้สร้างสรรค์งานวาดไซส์ใหญ่จัดเต็ม น้ำหนักเครื่องเพียง 580 กรัม บางเฉียบ 5.5 มม. สามารถพกพาไปวาดภาพในร้านคาเฟ่ที่คุณชื่นชอบได้ง่าย ๆ
- จุดเด่น
ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากทาง Huawei ที่ได้เล็งเห็นอันตรายของแสงสีฟ้า ซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตาเมื่อใช้งานแท็บเล็ตวาดภาพไปนาน ๆ จึงได้ออกแบบเทคโนโลยีที่ได้รับรองมาตรฐานTÜV Rheinland’s Full Care Display 3.0 ทำให้ลดอาการเมื่อยล้าของนักวาดภาพได้สูงสุดถึง 41%
- ขนาดหน้าจอแสดงผล
Flexible OLED 13.2 นิ้ว
- ความละเอียดหน้าจอ
2880 x 1920 พิกเซล
- ชิปประมวลผลข้อมูล
Kirin 9000S Octa Core 2.62 GHz
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล
256 GB
- ความจุแบตเตอรี่
10,100 mAh
4. แท็บเล็ตวาดวาดภาพ Samsung Galaxy Tab S9 Ultra 5G
แท็บเล็ตวาดภาพดีไซน์สวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ บางเฉียบเพียง 5.5 มม. หน้าจอขนาดใหญ่วัสดุเกรดพรีเมียม รองรับการใช้งานได้ทั้งการวาดภาพ พิมพ์งาน ตัดต่อวิดีโอ ให้ประสบการณ์รับชมภาพยนตร์เหนือระดับเสมือนนั่งชมอยู่ในโรงหนังด้วยระบบเสียงรอบทิศทางอย่าง Dolby Atmos
- จุดเด่น
เป็นแท็บเล็ตวาดภาพที่ได้รับการดีไซน์ให้กันน้ำระดับสูงด้วยเทคโนโลยี IP68 ทำให้สามารถรังสรรค์ผลงานภาพวาดท่ามกลางสายฝน หน้าจอออกแบบให้ลดแสงสีฟ้าได้ถึง 70% และปากกา S Pen ก็ช่วยในการวาดรูปออนไลน์เป็นเรื่องง่าย เพราะปลายปากกา ความหน่วงต่ำ เสมือนวาดภาพ และเขียนบนผลงานจริง แถมวาดภาพผ่านวิดีโอร่วมกับฟีเจอร์ AR Doodle ได้ด้วย
- ขนาดหน้าจอแสดงผล
Dynamic AMOLED 14.6 นิ้ว
- ความละเอียดหน้าจอ
1848 x 2960 พิกเซล
- ชิปประมวลผลข้อมูล
Qualcomm Snapdragon 8 Gen2 Octa Core
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล
256 GB และ 512 GB
- ความจุแบตเตอรี่
11,200 mAh
5. แท็บเล็ตวาดวาดภาพ Apple iPad 10.9 inch
iPad 10.9 นิ้ว หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า iPad Gen 10 แท็บเล็ตวาดภาพยุคใหม่ของค่าย Apple ที่หันมาใช้งาน USB C เป็นครั้งแรก ทำให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ External ได้มากกว่าเดิม รองรับการใช้งานร่วมกับ Accessories อื่น อย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ด, เมาส์ และปากกา Apple Pencil
- จุดเด่น
ออกแบบมาเพื่อการทำงานอันหลากหลายไม่ว่าจะเป็นวาดภาพ ดูหนัง และพิมพ์งาน ด้วยชิป A14 Bionic ที่พัฒนามาจาก A13 Bionic ซึ่งประมวลผลได้เร็วขึ้น 16% ประหยัดพลังงานมากถึง 40% ทำให้สร้างสรรค์ผลงานภาพได้ตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ และด้านลายเส้นของการวาดภาพก็โดดเด่น คมชัดจากสเปกระดับสูงของ ปากกา Apple Pencil Gen 1
- ขนาดหน้าจอแสดงผล
Liquid Retina 10.9 นิ้ว
- ความละเอียดหน้าจอ
1640 x 2360 พิกเซล
- ชิปประมวลผลข้อมูล
Apple A 14 Bionic Hexa Core
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล
64 GB, 256 GB
- ความจุแบตเตอรี่
10,891 mAh
6. แท็บเล็ตวาดวาดภาพ OPPO PAD 2
แท็บเล็ตวาดภาพสเปกกลางดีไซน์ Star trail อันประณีต มาพร้อมกับคุณสมบัติรองรับการใช้งานอุปกรณ์เสริม ช่วยสนับสนุนการวาดภาพ, พิมพ์งานได้ทรงพลัง อย่าง OPPO Pencil และ Smart Touch Pad Keyboard หากต้องการความไวลื่นไหลมากขึ้น สามารถอัปเกรด RAM ได้สูงสุดถึง 16 GB
- จุดเด่น
ขนาดกะทัดรัดให้ความรู้สึกเหมือนวาดภาพ ทำงานจริงบนกระดาษ A4 ด้วยอัตราส่วนของหน้าจออยู่ที่ 7:5 ปรับความสว่างได้สูงสุดถึง 500 nits ช่วยสร้างสรรค์ผลงานได้ทั้งเวลากลางวันกลางคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปากกา Stylus มีความหน่วงต่ำ ไวต่อแรงกดสูง ระดับการเขียนทำมุมได้สูงสุด 60 องศา ทำให้สร้างงานภาพสเก็ตซ์อย่างเป็นธรรมชาติ
- ขนาดหน้าจอแสดงผล
LCD 11.61 นิ้ว
- ความละเอียดหน้าจอ
2000 x 2800 พิกเซล
- ชิปประมวลผลข้อมูล
Mediatek Dimensity 9000 Octa Core
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล
256 GB
- ความจุแบตเตอรี่
9,510 mAh
7. แท็บเล็ตวาดวาดภาพ LENOVO Tab P12 Pro
แท็บเล็ตสุดอัจฉริยะดีไซน์บางเฉียบ 5.6 มม. รองรับการทำงานวาดภาพ ตัดต่อวิดีโอ ควบคู่ไปกับโน้ตบุ๊ก Lenovo ผ่านการเชื่อมต่อไร้สายด้วยฟีเจอร์ Project Unity ในด้านการรับชมภาพยนตร์ก็ให้ประสบการณ์ที่ดีด้วยภาพคมชัดระดับ HDR 10 ลำโพงรอบทิศทางจำนวน 4 ตัว ระบบเสียง Dolby Atmos มาตรฐานเดียวกับโรงภาพยนตร์ชั้นนำ
- จุดเด่น
มาพร้อมกับคุณสมบัติ 2 in 1 พิมพ์งาน +วาดภาพ ได้ในเครื่องเดียว ผ่านการเชื่อมต่อด้วยอุปกรณ์ External อย่าง Keyboard Pack และปากกา Stylus Precision Pen 3 ที่รองรับแรงกดได้สูงสุด 4096 ระดับ ใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุด 246 ชั่วโมง สามารถเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth ของ Lenovo Tab
- ขนาดหน้าจอแสดงผล
IPS-LCD 24 นิ้ว
- ความละเอียดหน้าจอ
1600 x 2560 พิกเซล
- ชิปประมวลผลข้อมูล
Qualcomm Snapdragon 870 Octa Core
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล
128 GB และ 256 GB
- ความจุแบตเตอรี่
10,200 mAh
8. แท็บเล็ตวาดวาดภาพ Xiaomi Pad 6
แท็บเล็ตวาดภาพพกพาสะดวก น้ำหนักเบา 490 กรัม บางเฉียบ 6.51 มม. ดีไซน์สวยโดดเด่นมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ 1. Gold, 2.Mist Blue และ 3.Gravity มาพร้อมกับราคาหลักหมื่นต้น ๆ แต่ให้อัตราการรีเฟรชเรทสูงสุดถึง 144 Hz พร้อมรองรับการทำงานหลากหลายรูปแบบด้วยฟังก์ชันแบ่ง 2 หน้าจอ ทำให้วาดภาพพร้อมดูหนังได้ในคราวเดียว
- จุดเด่น
แท็บเล็ตที่ช่วยถนอมดวงตาของศิลปินออนไลน์ผ่านมาตรฐานกรองแสงสีฟ้า TUV Rheninland certified Low Blue Light สามารถวาดภาพผ่านการใช้งานปากกา Stylus Xiaomi Smart Pen Gen2 ที่รองรับแรงกดได้สูงถึง 4096 ระดับ และภายในเครื่องก็มีแอปวาดภาพฟรีแถมมาให้อย่าง Sketchbook ที่เมื่อใช้งานคู่กับ Xiaomi Smart Pen ก็พบว่าไหลลื่น ลายเส้นคมชัด แถมปากกาก็ชาร์จไวสุดๆ ชาร์จแค่ 1 นาที ก็ใช้งานต่อเนื่องได้ยาว 7 ชั่วโมง
- ขนาดหน้าจอแสดงผล
IPS-LCD 11 นิ้ว
- ความละเอียดหน้าจอ
1880 x 2880 พิกเซล
- ชิปประมวลผลข้อมูล
Qualcomm Snapdragon 870 Octa Core
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล
128 GB และ 256 GB
- ความจุแบตเตอรี่
8,840 mAh
9. แท็บเล็ตวาดวาดภาพ Honor Pad X9
แท็บเล็ตวาดภาพราคาเบา ๆ ไม่เกินหมื่นแต่ให้ดีไซน์เรียบหรู ขนาดเบาพกพาสะดวกแค่ 499 กรัม อัตรารีเฟรชเรทสูงสุดอยู่ที่ 120 Hz ความคมชัดของเสียงจัดว่าอยู่ในระดับสูงเพราะให้ลำโพงมาจัดนักจัดเต็มถึง 6 ตัว ปรับระบบการฟังได้สูงสุดถึง 4 โหมด และยังมีระบบ Vocal Enchancement ช่วยให้นักศึกษาเรียนออนไลน์ง่ายยิ่งขึ้น
- จุดเด่น
นอกจากระบบเสียงคมชัดแล้วแท็บเล็ตวาดรูป Honor Pad X9 ยังสนับสนุนการสร้างสรรค์งานศิลปะดีเยี่ยมด้วยการรองรับปากกา Stylus Pen มาพร้อมกับฟังก์ชันปรับโหมดหน้าจอกรองแสงสีฟ้า และออกแบบหน้าจอให้มีคุณสมบัติกะพริบต่ำช่วยให้ศิลปินสร้างสรรค์
- ขนาดหน้าจอแสดงผล
แท็บเล็ตวาดรูปที่ใช้งานต่อเนื่องได้นาน ไม่ต้องเผชิญกับอาการตาล้า พ่วงด้วยฟีเจอร์ Multi-Tasking แบ่งหน้าจอการใช้งานวาดภาพ และพิมพ์งานในคราวเดียว
- ขนาดหน้าจอแสดงผล
TFT-LCD 11.5 นิ้ว
- ความละเอียดหน้าจอ
1200 x 2000 พิกเซล
- ชิปประมวลผลข้อมูล
Qualcomm Snapdragon 685 4 G Octa Core
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล
128 GB
- ความจุแบตเตอรี่
7,250 mAh
10. แท็บเล็ตวาดวาดภาพ Surface Go 4
แท็บเล็ตวาดภาพระบบปฏิบัติการ Window 11 Pro เอาใจคนวัยทำงาน ดีไซน์แข็งแรงด้วยวัสดุแมกนีเซียมอัลลอย น้ำหนักเบาเพียง 521 กรัม บำรุงรักษา และเปลี่ยนชิ้นส่วนแกะซ่อมแบตเตอรี่ได้ง่าย สามารถอัปเกรดความจุของเครื่องเพิ่มเติมผ่านการใส่ microsSD card
- จุดเด่น
มาพร้อมกับคุณสมบัติดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่รองรับการวาดภาพจำนวนมาก เช่น แอป Lenonardo ที่สนับสนุนการสร้างสรรค์งานศิลป์ชิ้นเอก ด้วยแท็บเครื่องมือต่าง ๆ หรือแอป Bamboo Paper ซึ่งให้ผู้ใช้งานสัมผัสประสบการณ์การวาดภาพราวกับผิวกระดาษจริง โดยไม่ต้องติดฟิล์มกระดาษเพิ่มเติม
- ขนาดหน้าจอแสดงผล
PixelSense 10.5 นิ้ว
- ความละเอียดหน้าจอ
1920 x 1280
- ชิปประมวลผลข้อมูล
Intel N200
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล
64 GB, 128GB, 256 GB
- ความจุแบตเตอรี่
ไม่ระบุ (ใช้งานได้สูงสุด 12.5 ชั่วโมง)
ระหว่าง แท็บเล็ตกราฟิก กับแท็บเล็ตใช้งานทั่วไป อะไรดีกว่ากัน?
แท็บเล็ตวาดภาพ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “แท็บเล็ตกราฟิก” เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อการวาดภาพโดยเฉพาะ ด้วยคุณสมบัติหน้าจอสัมผัสลื่นไหลกว่า, รองรับการใช้งานปากกาวาดภาพ รวมไปถึงระบบปฏิบัติการที่ช่วยสนับสนุนการลงลายเส้นที่มีความละเอียดอ่อน
ในขณะที่แท็บเล็ตใช้งานทั่วไป จะไม่ได้เน้นการวาดภาพเป็นพิเศษ และบางรุ่นจะไม่สามารถเชื่อมต่อกับปากกา Stylus ได้ เพราะออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานอื่นๆ เช่น การเล่นเกม รับชมภาพยนตร์ หรือการถ่ายรูป เป็นต้น
วิธีการเลือกแท็บเล็ตวาดภาพ
เมื่อเพื่อน ๆ ทราบกันไปแล้วว่าแท็บเล็ตวาดภาพแตกต่างจากแท็บเล็ตทั่วไปอย่างไร ก็มาศึกษาวิธีการเลือกแท็บเล็ตวาดภาพที่ใช่กันได้เลย รับรองว่าอ่านจบแล้ว หากไม่เคยซื้อแท็บเล็ตมาก่อน ก็สามารถเลือกซื้อตรงกับความต้องการใช้ได้แน่นอน
1. เลือกจากระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการของแท็บเล็ตวาดภาพมีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่ 1. iOS, 2.Window, และ 3.Android ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันออกไป เช่น ระบบปฏิบัติการ iOS หน้าจอ UI ใช้งานง่ายดูสะอาดตา มาตรฐานความปลอดภัยสูง แต่ใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ที่สนับสนุนการทำงานได้น้อย
ในขณะที่ระบบปฏิบัติการ Window ผู้ใช้งาน PC หรือโน้ตบุ๊กต่างคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะเป็นระบบปฏิบัติการเดียวกัน ทำให้ไม่ต้องปรับตัว และเรียนรู้ UI ใหม่ แถมยังมีซอฟต์แวร์ที่ซัพพอร์ตการทำงานทั้งเอกสาร ตัดต่อวิดีโอ วาดภาพอย่างครอบคลุมไม่ว่าจะเป็น Microsoft Office, Adobe แต่จำนวนแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้ น้อยกว่า iOS และ Android
และระบบปฏิบัติการ Android ส่วนใหญ่แล้วราคาจะถูกกว่าแท็บเล็ตที่ใช้งานระบบปฏิบัติการอื่น แถมสามารถอัปเกรดพื้นที่จัดเก็บ รวมทั้งขนาด RAM ได้ ส่วนข้อเสียของระบบก็หนีไม่พ้นกับการอนุญาตให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนอก Play Store ทำให้แท็บเล็ตเสี่ยงต่อการติดไวรัส หรือมัลแวร์
2. ตรวจสอบสเปกของตัวเครื่อง
แท็บเล็ตแต่ละเครื่องเน้นสเปกการใช้งานไม่เหมือนกัน บางรุ่นเน้นกล้อง หรือเล่นเกมโดยเฉพาะ ส่วนแท็บเล็ตวาดภาพที่ดีควรมีสเปกสนับสนุนการวาดภาพอย่างครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันลดแสงสีฟ้า ซัพพอร์ตการใช้งานร่วมกับปากกา Stylus, การกันน้ำกันฝุ่นในระดับสูง หรือหน้าจอมีความคมชัด
3. พิจารณาชิปประมวลผล
ชิปประมวลผลของแท็บเล็ตวาดภาพก็มีผลในการสร้างสรรค์ผลงานเช่นกัน เพราะหากเลือกชิปคุณภาพต่ำ เวลาวาดภาพก็ย่อมประสบกับปัญหาลายเส้นติดขัด มีความหน่วงเกิดขึ้นบ่อย และตัวแอปแท็บเล็ตวาดภาพอาจเด้งออก หากเปิดแอปพลิเคชันซ้อนทับจำนวนมาก ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบคุณภาพของชิปประมวลผลได้จากคะแนน Benchmark ของ Geekbench หรือ Antutu
4. ให้ความสําคัญกับขนาดความจุของแบตเตอรี่
ความจุของแบตเตอรี่ของแท็บเล็ตวาดภาพมีผลต่อระยะเวลาการใช้งาน ยิ่งความจุแบตเตอรี่มากเท่าไหร่ ก็หมายความว่าแท็บเล็ตเครื่องนั้นใช้งานได้นาน โดยไม่ต้องเสียเวลาชาร์จแบตเตอรี่ ถ้าคุณใช้แท็บเล็ตวาดภาพทั้งวัน ควรเลือกที่มีความจุมากกว่า 10,000 mAh ขึ้นไป และรองรับการชาร์จเร็ว (Fast charging) เพื่อประสิทธิภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง
5. ตรวจสอบพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าไฟล์ภาพวาดมีขนาดใหญ่กว่าไฟล์เอกสารทั่วไป ถ้าคุณเป็นศิลปินมืออาชีพ จะเข้าใจดีว่าหากพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลน้อยเกินไป เมื่อสร้างสรรค์ผลงานไปได้ประมาณ 1- 2 ปี จะพบกับปัญหาพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเต็ม ทำให้ต้องแก้ปัญหาด้วยการซื้อพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มจากระบบ Cloud อย่าง Google Drive และ One Drive ดังนั้นเราจึงแนะนำให้เลือกซื้อแท็บเล็ตวาดภาพที่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอย่างน้อย 128 GB ขึ้นไป
6. เลือกแท็บเล็ตวาดรูปที่มีขนาดจอเหมาะสม
หากนักวาดรูปคนใดต้องการสร้างสรรค์ผลงานอย่างมืออาชีพ เราแนะนำว่าควรเลือกแท็บเล็ตวาดรูปขนาดหน้าจอ 12 - 13 นิ้วเป็นต้นไป
เพราะมีพื้นที่มากเพียงพอสำหรับวาดภาพต่าง ๆ อย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นรูปคน หรือ วิวทิวทัศน์ และใส่รายละเอียดองค์ประกอบศิลป์ได้ง่าย พร้อมกับสามารถเปิดแท็บเครื่องมือต่าง ๆ โดยไม่บดบังพื้นที่วาดภาพมากนัก
แต่ถ้าไม่ได้วาดภาพสม่ำเสมอเน้นจดเลคเชอร์และอ่านหนังสือ ในกรณีนี้เราแนะนำให้เลือกแท็บเล็ตขนาดหน้าจอประมาณ 9 นิ้ว เพราะพกพาสะดวก เหมาะแก่การใช้งานนอกบ้าน
7. ตรวจสอบระบบสัมผัสของปากกาแท็บเล็ตที่ง่ายต่อการวาดภาพ
แม้ว่าแท็บเล็ตวาดภาพจะออกแบบให้ศิลปินออนไลน์วาดรูปได้ทุกที่แล้วก็จริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ใช่ปากกา Stylus ทุกประเภทจะช่วยในการวาดภาพอย่างเหมาะสม เพราะรองรับแรงกดได้น้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถลงน้ำหนักลายเส้นได้ตามที่ต้องการ
ดังนั้นจึงควรเลือกปากกาแท็บเล็ตที่ระบบสัมผัสไว รองรับแรงกดได้ถึง 4096 ระดับ เพื่อช่วยให้ร่างลายเส้นได้ เหมือนบนกระดาษจริง
8. ควรเลือกรุ่นที่มีฟังก์ชันวัดมุมปากกา
ฟังก์ชันวัดมุมปากกาของแท็บเล็ตวาดภาพช่วยให้ศิลปินสร้างสรรค์ผลงานได้ง่ายขึ้น เพราะช่วยในการร่างลายเส้น และฝีแปรงได้สมจริง ส่วนแท็บเล็ตที่ไม่มีฟังก์ชันดังกล่าว ผู้ใช้งานปากกา Stylus ครั้งแรกอาจต้องใช้เวลาฝึกฝน ทำความเข้าใจลักษณะของมุมปากกาสักพัก จนกว่าจะคุ้นชินและเริ่มวาดภาพสร้างงานศิลปะออกมาได้
9. เลือกแท็บเล็ตวาดรูปที่ปรับระดับมุมมองได้
การสร้างสรรค์ภาพวาดที่มีคุณภาพตรงตามโจทย์ของลูกค้าอาจต้องใช้ระยะเวลาจัดทำนาน ต่อเนื่องกว่า 6 ชั่วโมง ทำให้การเลือกแท็บเล็ตที่รองรับการใช้งานร่วมกับขาตั้งปรับระดับ หรือสามารถปรับระดับมุมมองของหน้าจอ จึงเป็นเรื่องสำคัญ มิเช่นนั้นแล้วอาจเกิดอาการออฟฟิศซินโดรม ซึ่งส่งผลต่อปัญหาสุขภาพของนักวาดภาพในระยะยาวได้
10. คํานึงถึงแอปพลิเคชันที่รองรับการดาวน์โหลดและใช้งานได้
แม้ว่าจะออกแบบมาเพื่อใช้งานกับปากกา Stylus ให้วาดรูปได้ก็จริง แต่จะไม่สามารถวาดภาพได้หากปราศจากแอปพลิเคชัน เช่น Procreate, Concepts หรือ ibis Paint ฯลฯ
ข้อดีของแท็บเล็ตวาดภาพ
เมื่อทราบกันไปแล้วว่าควรเลือกแท็บเล็ตวาดภาพ มีวิธีเลือกอย่างไร ก็มาดูข้อดีของแท็บเล็ตวาดภาพกันเลยว่า นอกจากช่วยในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะสุดอาร์ตแล้ว ยังมีข้อดีอื่น ๆ ที่น่าสนใจอะไรอีกบ้าง
1. น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย
โดยทั่วไปแล้วแท็บเล็ตวาดภาพจะมีน้ำหนักเบาไม่เกิน 600 กรัม ทำให้สามารถพกพาไปทำงานยังสถานที่อื่น ๆ นอกบ้าน พร้อมสนับสนุนการสร้างสรรค์ผลงานได้ ไม่จำเป็นต้องพกพาอุปกรณ์ศิลปะจำนวนมาก เช่น กระดาษ, จานสี หรือแปรงพู่กัน เพราะหากทำงานผิดพลาดก็แค่กดแก้ไข หรือเริ่มงานใหม่ได้เลย
2. รองรับการทำงานหลายประเภท
แม้ว่าแท็บเล็ตจะออกแบบมาเพื่อให้เหล่าศิลปินออนไลน์รังสรรค์ผลงานศิลปะ แต่ก็สามารถสนับสนุนการทำงานรูปแบบอื่นได้ด้วย เช่น พิมพ์งานเอกสาร, ตัดต่อวิดีโอ ผ่านการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องการทำงานในด้านนั้น ๆ
3. ตอบโจทย์ทุกสไตล์การวาดภาพ
แอปพลิเคชันของแท็บเล็ตวาดภาพช่วยให้ศิลปินสร้างสรรค์ผลงานได้หลากสไตล์มากกว่าเดิม เพราะทางผู้พัฒนาออกแบบฟังก์ชัน และฟีเจอร์สำหรับร่างลายเส้นที่นักวาดภาพต้องการได้ แม้ไม่เคยวาดลายเส้นนั้นมาก่อน เช่น ลายเส้นมังงะ, ลายเส้นอนิเมะ เป็นต้น
สิ่งที่สําคัญในการเลือกแท็บเล็ตวาดภาพ
จะเห็นได้ว่าการเลือกแท็บเล็ตวาดภาพมีปัจจัยมากมายที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ แต่มี 2 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการวาดภาพโดยตรงได้แก่ 1.แอปพลิเคชันวาดภาพ และ 2.ปากกา Stylus ซึ่งแอปวาดภาพของแต่ละระบบปฏิบัติการก็แตกต่างกันออกไปจึงควรเลือกแอปที่ช่วยสนับสนุนงานศิลปะที่คุณต้องการให้มากที่สุด
และควรใช้งานปากกา Stylus ที่มีความไวสูง ความหน่วงต่ำ เพราะเวลาสร้างผลงานจะได้รู้สึกเหมือนกับจับปากกา หรือดินสออยู่จริง รวมทั้งอาจเปลี่ยนมาใช้ฟิล์มกระดาษแทนการใช้ฟิล์มกระจกด้วย เพื่อให้ฟีลเดียวกับการเขียนบนกระดาษ มิเช่นนั้นแล้วระหว่างคุณวาดรูปจะให้สัมผัสเหมือนถูอยู่กับกระจก ซึ่งให้อารมณ์ที่ไม่สนุกเอาเสียเลย
ไม่ว่าจะช้อปปิ้งที่ไหนก็เพลิดเพลินได้ จะช้อปบนแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ แค่ชำระผ่าน บัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม ก็รับเครดิตเงินคืน 5%* และยังรับพอยต์ 2X* เมื่อมียอดใช้จ่ายที่ร้านอาหารทั่วโลก พร้อมรับสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นบัตรเครดิตมากมาย ครบคุ้มขนาดนี้ จัดเลยให้ไว
สมัครบัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม ได้เลยที่นี่
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด