ไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม ต้องเตรียมอะไร 2024
ไม่ว่าใครก็ต่างหลงรัก ”ญี่ปุ่น” แดนอาทิตย์อุทัย แหล่งอาหารอร่อย สถานที่ท่องเที่ยวสุดคูลตอบโจทย์การเดินทางทุกฤดู แถมวัฒนธรรมก็เป็นที่แพร่หลายจึงไม่แปลกใจนักว่าทำไมเพื่อน ๆ จำนวนมากถึงนิยมเดินทางไปเที่ยวมากที่สุด แต่มาตรการเดินทางเข้าญี่ปุ่นอัปเดตเป็นประจำทุกปี ดังนั้นเราจึงนำข้อมูลน่าสนใจมาฝากว่าควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม
หากสงสัยว่าไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม? คำตอบคือ ถ้าอยู่ไม่เกิน 15 วัน ไม่ต้องขอวีซ่า หมายความว่าถ้าเดินทางเข้าญี่ปุ่นวันที่ 1 เมษายน 2567 จะอยู่อาศัยได้ถึงวันที่ 16 เมษายน 2567 สาเหตุที่ทางการญี่ปุ่นเสนอวีซ่าฟรีให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทย เพราะเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศที่ซบเซามานาน
แต่! ในกรณีที่อยู่เกิน 15 วัน ต้องขอวีซ่าวีซ่านะ ไม่อย่างนั้นแล้วจะถูกส่งตัวกลับประเทศไทย และมีโทษห้ามเข้าญี่ปุ่น 1 ปีขึ้นไปเป็นอย่างต่ำ
เดินทางเข้าญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง
เมื่อเพื่อนๆ ได้รับคำตอบแล้วว่าไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม? สเต็ปต่อมารู้จักกับเอกสารสำคัญที่ห้ามพลาดเด็ดขาด เพื่อให้การเดินทางเข้าญี่ปุ่นครั้งแรกเป็นเรื่องง่าย ไร้อุปสรรคทุกการเดินทาง
1. พาสปอร์ต
แม้ว่าญี่ปุ่นจะให้สิทธิ์ฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่มาอาศัยไม่เกิน 15 วันก็จริง แต่ยังไงเพื่อน ๆ ที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นก็ยังต้องพกพาสปอร์ตไปด้วยเสมอ เพื่อยืนยันแก่เจ้าหน้าที่ตม.ว่าเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติไทยจริง และสำหรับการทำพาสปอร์ตครั้งแรกสามารถเดินทางไปที่กรมการกงสุล หรือสำนักงานหนังสือเดินทางทั่วประเทศ ค่าใช้จ่ายในการทำพาสปอร์ตเริ่มต้น 1,000 บาท สำหรับ 5 ปี และ 1,500 สำหรับ 10 ปี แต่สำหรับผู้ที่มีพาสปอร์ตอยู่แล้วต้องเช็กด้วยว่าพาสปอร์ตของตัวเองมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือนหรือไม่ ซึ่งหากมีอายุน้อยกว่า 6 เดือนควรยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางใหม่ที่ศูนย์รับทำหนังสือเดินทางที่คุณสะดวก แต่อย่างไรก็ตามทางสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยได้แจ้งว่า ประเทศญี่ปุ่นไม่ได้มีการกำหนดอายุการใช้งานคงเหลือของหนังสือเดินทางว่าจะต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน แต่เพื่อความสบายใจ แนะนำว่าพาสปอร์ตควรเหลือมากกว่า 6 เดือนนะครับ
2. ตั๋วเครื่องบิน
ซื้อตั๋วเครื่องบินมาแล้ว อย่าเอาไปทิ้งนะครับ เพราะการเดินทางเข้าญี่ปุ่นจำเป็นต้องใช้ข้อมูลจากตั๋วเครื่องบินสำหรับการกรอกลงทะเบียนบนเว็บไซต์ Visit Japan Web เพื่อได้รับบริการอย่างรวดเร็วเมื่อถึงกระบวนการทางศุลกากร และขั้นตอนการตรวจเมืองของญี่ปุ่น
3. ลงทะเบียน Visit Japan Web ก่อนเดินทางเข้าญี่ปุ่น
หลังจากเตรียมพาสปอร์ต และตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปให้เพื่อน ๆ ลงทะเบียนกับเว็บไซต์ Visit Japan Web ซึ่งรวบรวมบริการที่จำเป็นแก่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าญี่ปุ่น ได้แก่ 1.กรอกใบผ่านตม.ล่วงหน้า. 2.พิธีการศุลกากร และ 3.แหล่งช้อปปิ้งร้านค้าปลอดภาษี
ขั้นตอนการลงทะเบียน
- เข้าสู่หน้าแรกของเว็บไซต์ https://vjw-lp.digital.go.jp/en/
- คลิก “S tart using the service now” ระบบจะพาคุณมายังหน้าล็อกอิน หากลงทะเบียนครั้งแรก ให้เลือกช่อง “Sign up for a new account”
- ลงทะเบียนบัญชี account ใหม่ด้วยการระบุข้อมูลที่จำเป็นได้แก่ 1.กรอกอีเมลส่วนตัว 2.ใส่รหัสผ่าน และกด “Create Account”
- จากนั้นระบบจะให้คุณยืนยันอีเมล ด้วยการระบุ “confirmation code 6 หลัก” ให้คุณกรอกรหัส 6 หลักลงไป เสร็จแล้วให้กด Confirm email
- เข้าสู่ระบบเป็นครั้งแรกโดยกรอกอีเมล และ Username ที่ได้ลงทะเบียนเอาไว้ และกด “Login”
- คลิกเลือก Your Detail สำหรับกรอกข้อมูลส่วนตัว
- ระบบจะเริ่มถาม 2 คำถามเกี่ยวกับการเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้แก่
- Do you have a passport issued by the Japanese Government
- Will you enter Japan with a(special) re-entry permission
หากเดินทางเข้าญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ให้ตอบ “no” ทั้ง 2 ข้อ และกดถัดไป
- เริ่มกรอกข้อมูลด้านพาสปอร์ต
- นามสกุล
- ชื่อ
- วันเดือนปีเกิด
- สัญชาติ
- เพศ
- หมายเลขพาสปอร์ต
- ยืนยันหมายเลขพาสปอร์ต และกด Next
- ตรวจสอบข้อมูลให้เรียบร้อย เมื่อถูกต้องกด Register จากนั้นให้คลิก Back to home
- เมื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคคลเสร็จสิ้น ขั้นตอนต่อไปหากประสงค์การเดินทางแบบทริปครอบครัว ให้เลือก “Details of family members traveling with you” เพื่อกรอกประวัติสมาชิกครอบครัวเพิ่มเติม
- หลังจากกรอกประวัติส่วนตัว หรือประวัติสมาชิกในครอบครัวเสร็จสิ้น ให้เริ่มต้นกรอกข้อมูลทริปเดินทางดังนี้
- ตั้งชื่อทริป (ฟรีสไตล์ตามใจชอบ)
- วันที่เดินทางถึงญี่ปุ่น
- ชื่อสายการบินที่คุณใช้บริการ
- ระบุหมายเลขไฟล์ท
- กรอกข้อมูลรายละเอียดของที่พัก
- รหัสไปรษณีย์
- จังหวัด
- เมือง
- ที่อยู่
- ชื่อโรงแรมที่พัก
- เบอร์ติดต่อโรงแรม กรอกข้อมูลเสร็จสิ้นกด Confirm
- ตรวจสอบข้อมูลการเดินทาง และที่พักอีกครั้ง ถ้าเรียบร้อยกด Register Plan
การกรอกข้อมูล Preparation for Immigration Clearance สำหรับการตรวจคนเข้าเมือง
- เข้าหน้าเพจ “Japan entry/return procedure”
- คลิกรายการ “Disembarkation Card for foreigner
- กรอกข้อมูล ประเทศ และจังหวัดที่คุณอาศัยอยู่ในปัจจุบัน
- ระบุวัตถุประสงค์ในการเดินทางว่า “Tourism”
- กรอกข้อมูลของไฟล์ทที่เดินทางเข้ามา
- ระบุจำนวนวันที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่น
- กรอกที่อยู่ของโรงแรมที่คุณเข้าพักอาศัย ซึ่งประกอบด้วย
- รหัสไปรษณีย์
- จังหวัด
- เมือง
- ที่อยู่
- ชื่อโรงแรมที่พัก
- เบอร์ติดต่อโรงแรม กรอกข้อมูลเสร็จสิ้นกด Confirm
- ตอบคำถามต่อไปนี้ให้ครบ 3 ข้อ
- เคยถูกเนรเทศหรือปฏิเสธไม่ให้เดินทางเข้าญี่ปุ่นหรือไม่
- เคยกระทำความผิดฐานอาญาในญี่ปุ่น หรือประเทศอื่นหรือไม่
- คุณครอบครองยาเสพติด กัญชา ฝิ่น สารกระตุ้น หรือสารควบคุมอื่น ๆ และอาวุธปืน หน้าไม้ ดาบ วัตถุระเบิด หรือวัตถุอันตรายอื่นหรือไม่
ให้เพื่อน ๆ ตอบ “No” ทุกคำถาม จากนั้นตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง เมื่อมั่นใจว่ากรอกถูกต้องเรียบร้อย กด Register
Preparation for Customs Declaration สำหรับศุลกากร
- เข้าหน้าเพจ “Japan entry/return procedure”
- คลิกรายการ “Declaration of Personal Effects and Unaccompanied Articles”
- กด Next
- ระบบจะพาคุณมายังหน้าข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อพิธีการศุลกากร ให้เพื่อน ๆ ระบุข้อมูลดังนี้
- เลือกอาชีพ
- วันที่เดินทางเข้าญี่ปุ่น
- หมายเลขเที่ยวขาไป
- ตรงส่วนของ Point of embarkation ให้ใส่ว่า Bangkok เสร็จแล้วกด Next
- ระบุจำนวนสมาชิกที่ร่วมเดินทางมากับคุณ หากไม่มีกดข้ามคลิก Next ได้เลย
- ใส่รายละเอียดที่อยู่ที่พักในคืนแรก
- รหัสไปรษณีย์
- จังหวัด
- เมือง
- ที่อยู่
- ชื่อโรงแรมที่พัก
- เบอร์ติดต่อโรงแรม
- เมื่อใส่รายละเอียดที่พักเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไประบบจะถามเพื่อน ๆ ว่าได้นำสิ่งของต่อไปนี้เข้ามาหรือไม่
- ยาเสพติด, อาวุธปืน,วัตถุระเบิด
- ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์, ผัก, ผลไม้
- ทองคำ
- สินค้าในปริมาณสัดส่วนเกินกว่าจะได้รับยกเว้นอากรขาเข้า
- สินค้าเชิงพาณิชย์
- สิ่งของที่บุคคลที่ 3 ขอให้คุณนำเข้าญี่ปุ่น
- เงินสด
- กระเป๋าเดินทางที่จะส่งตามมาภายหลัง หลังจากคุณได้เดินทางเข้าญี่ปุ่นแล้ว ให้เพื่อนๆ ระบุข้อมูลทั้ง 8 ตามความจริงนะครับ ถ้ามีตอบ “Yes” ถ้าไม่มีเลือก “No” เสร็จแล้วกด Next
- ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง เมื่อมั่นใจแล้วให้กด “Register”
- คลิก Back to Entry/Return Procedure
- ระบบจะปรากฏ QR code ขึ้น ให้เพื่อนๆ เลือก Display QR code
- เมื่อเข้าสู่หน้า Display QR code คุณจะพบกับหน้าสรุปข้อมูลเกี่ยวกับ Immigration Clearance และ Customs Declaration ให้เพื่อนๆ ตรวจสอบข้อมูลอีกรอบ เมื่อมั่นใจแล้วว่ากรอกครบทุกช่อง ให้กด Display QR Code
- ระบบจะปรากฏ QR code จำนวน 2 อันขึ้นในเว็บไซต์ ได้แก่ 1. QR code สำหรับตม.ญี่ปุ่น และ 2. QR code สำหรับพิธีการศุลกากร ให้เพื่อนๆ เซฟ QR code ทั้งสองใส่มือถือได้เลย เพื่อใช้แสดงยืนยันตัวตน เมื่อถึงกระบวนการตม. และศุลกากรของญี่ปุ่นครับ
เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อใช้ในการลงทะเบียน Visit Japan Web
เมื่อเพื่อน ๆ ทราบไปแล้วว่าขั้นตอนการลงทะเบียน Visit Japan Web ต้องทำอย่างไรบ้าง ต่อมาให้เตรียมเอกสารเหล่านี้ให้พร้อม เพื่อที่เวลากรอกข้อมูลเดินทางเข้าญี่ปุ่น จะได้สะดวกรวดเร็ว ไม่เสียเวลาเตรียมเอกสารทีหลัง
- พาสปอร์ต
- ตั๋วเครื่องบิน
- ตั๋วที่พัก
สิ่งของต้องห้ามในการเดินทางเข้าญี่ปุ่น
วัตถุต้องห้ามต่อไปนี้ทุกคนไม่สามารถพกติดตัวเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ทุกกรณี
- ยาเสพติด
- สารกระตุ้น
- สารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
- ยาอี
- อาวุธปืน หรือชิ้นส่วนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ปืน
- ระเบิด
- ของปลอม เช่น ธนบัตรปลอม, เหรียญปลอม หรือบัตรเครดิตปลอม
- วัตถุลามกอนาจาร
- สินทรัพย์ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
วัตถุควบคุม
วัตถุควบคุมไม่เหมือนกับสิ่งต้องห้ามนะ เพราะวัตถุควบคุมจะยังคงนำติดตัวเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้อยู่ แต่ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ตัวอย่างของวัตถุควบคุม (Restricted goods) ได้แก่
- ปืนล่าสัตว์
- ปืนลม
- ดาบ
- สัตว์ที่มีชีวิต หรือพืช รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากเนื้อสัตว์
- หรือสิ่งมีชีวิต ที่ได้รับการปกป้องจากการสูญพันธุ์ เช่น งาช้าง, จระเข้, เต่า เป็นต้น
นอกเหนือจากนี้ก็ยังมี
-
ทองคำแท่งหรือผลิตภัณฑ์ทองคำ
ไม่ว่าจะทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ทำจากทองทุกชนิด น้ำหนักเกิน 1 กิโลกรัม จะต้องชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรของญี่ปุ่นครับว่าคุณมีความจำเป็นอะไรที่ต้องพกทองจำนวนมากเดินทางเข้าญี่ปุ่นขนาดนั้น แต่ถ้าตอบคำถามต่อเจ้าหน้าที่ได้ก็ผ่านขั้นตอนนี้ได้ครับ ไม่ได้เข้มงวดขนาดห้ามนำทองคำเข้าขนาดนั้น
-
สินค้าที่เกินจากการได้รับยกเว้นภาษี
การเดินทางเข้าญี่ปุ่นก็มีข้อกฎหมายห้ามพกของเกินกว่าปริมาณที่กำหนดเช่นเดียวกับกรมศุลกากรของไทยครับ ถ้าพกของต่อไปนี้ในปริมาณที่ระบุไว้ตามกฎหมายต้องเสียอากรขาเข้า ตัวอย่างเช่น
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปริมาณเกินกว่า 760 mL. หรือเกินกว่า 3 ขวด
- บุหรี่เกินกว่า 200 มวน หรือ ซิการ์เกินกว่า 200 มวน
- น้ำหอมในปริมาณเกินกว่า 2 ออนซ์
-
สินค้าเชิงพาณิชย์
บอกเลยว่าทางการศุลกากรญี่ปุ่นทำงานเข้มงวดมากครับ ใครพกของเดินทางเข้าญี่ปุ่น จำนวนมาก จนผิดสังเกต เช่น รองเท้า, เสื้อผ้า, ขนมขบเคี้ยว เตรียมตัวเสียภาษีนำเข้าได้เลย เพราะถือว่ามีเจตนานำเข้ามาจำหน่ายภายในญี่ปุ่น ส่วนต้องเสียในอัตราอากรขาเข้าเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับชนิดสินค้าและปริมาณที่กำหนด
-
สิ่งของอื่น
นอกจากนี้ยังมีสิ่งของอื่น ๆ ที่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรก่อนเดินทางเข้าญี่ปุ่น ได้แก่ 1.เงินสดเกินกว่า 1 ล้านเยน เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการฟอกเงิน, เมล็ดพืชบางชนิดที่อาจเกิดการปนเปื้อน ทำให้ต้องได้รับใบอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ และผลไม้อย่าง ทุเรียน สัปปะรด พริกแห้ง ต้องมีใบอนุญาตด้วยเช่นกัน
-
ยา
เป็นหวัด น้ำมูกไหล หายใจไม่ออก เพื่อนๆ คงแก้ปัญหาด้วยการพกยาเพื่อบรรเทาอาการ แต่ควรตรวจสอบประเภทยาให้ดีนะครับ เพราะมียา 11 ประเภทต่อไปนี้ที่ไม่สามารถนำติดตัวเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ทุกกรณี เพราะมีส่วนผสมของสารกระตุ้นประสาท (สารซูโดอีเฟดรีน) ได้แก่
- NYQUIL
- NYQUIL LIQUICAPS
- TYLENOL COLD
- ADVIL COLD & SINUS
- ACTIFED SUDAFED
- DRISTAN SINUS
- DRISTAN COLD/ “NO DROWSINESS”
- VICKS INHALER
- DRIXORAL SINUS
- SUDAFED
- LOMOTIL
สำหรับ LOMOTIL ไม่ได้มีสารซูโดอีเฟดรีน แต่เป็นยาบรรเทาอาการท้องเสีย ที่มีส่วนผสมของยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 3
-
ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดที่มีส่วนประกอบของกัญชา
สายสีเขียวเดินทางเข้าญี่ปุ่นต้องระวังนะ เพราะทางศุลกากรญี่ปุ่นเข้มงวดมากกับการนำผลิตภัณฑ์กัญชาเข้าประเทศ ใครครอบครองชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของกัญชา อย่างใบ กิ่ง ราก ลำต้น หรือแม้แต่สารสกัด THC ก็ไม่สามารถผ่านได้
-
ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ และผักผลไม้สด รวมถึงของแปรรูปจากสัตว์ทุกชนิด
ทางการญี่ปุ่นซีเรียสเรื่องการนำเข้าเนื้อสัตว์ และของแปรรูปจากสัตว์ทุกชนิดมาก เพราะหลายครั้งเกิดเหตุโรควัวบ้าระบาด และโรคอื่น ๆ ซึ่งมาพร้อมกับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าญี่ปุ่นที่ลักลอบนำเนื้อไก่ดิบ น้ำนมดิบ หรือแม้แต่ไส้กรอก, ไส้อั่วเข้าประเทศ ซึ่งการพกผลิตภัณฑ์เหล่านี้เข้ามาต้องโทษ 3 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านเยน หรือทั้งจำทั้งปรับ
และผักผลไม้สด เช่น มะเขือเทศ ส้ม กล้วย ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าเช่นกัน เพราะเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาดในพืช ทำให้เกษตรกรญี่ปุ่นได้รับความเดือดร้อน แต่ถ้าเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ผ่านการแปรรูปแล้ว เช่น ส้มกระป๋อง หรือกล้วยตาก อันนี้นำเข้าได้
เดินทางเข้าญี่ปุ่นต้องแสดงเอกสารการตรวจโควิดหรือการฉีดวัคซีนโควิดหรือไม่
ข่าวดีสำหรับเพื่อน ๆ ชาวไทยที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิดทุกท่าน เพราะญี่ปุ่นได้ยกเลิกมาตรการกักตัวเรียบร้อยแล้ว และไม่ต้องใช้เอกสารการตรวจโควิดจากแอปพลิเคชันหมอพร้อม เพื่อยืนยันว่าได้ฉีดวัคซีนจริง ทำให้ขั้นตอนการเดินทางเข้าญี่ปุ่นเหลือแค่ ตม. และพิธีการศุลกากรเท่านั้น
เอกสารที่จำเป็นการยื่นขอวีซ่าเพื่อเดินทางเข้าญี่ปุ่น
หลังจากทราบไปแล้วว่าการเดินทางเข้าญี่ปุ่น เมื่ออยู่อาศัยน้อยกว่า 15 วัน ทุกคนจะได้รับสิทธิ์ฟรีวีซ่า แต่สำหรับเพื่อน ๆ ที่วางแผนอยู่ยาวเพื่อชมเทศกาลประจำฤดู มาเตรียมพร้อมเอกสารต่อไปนี้ในการขอวีซ่าได้เลย
- หนังสือเดินทางอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
- ถ่ายในชุดสุภาพ เป็นสีหรือขาว-ดำก็ได้ พื้นหลังสีอ่อนไม่มีลวดลาย ขนาดไม่เกิน 2x1.4 นิ้ว
- ใบคำร้องขอวีซ่าญี่ปุ่นจากเว็บไซต์สถานฑูต
- แบบสอบถามเพื่อการขอวีซ่า
- กำหนดการเดินทาง
- ทะเบียนบ้าน นำมาทั้งฉบับจริง และสำเนา 1 ชุด
สถานที่ทำวีซ่าเพื่อเดินทางเข้าญี่ปุ่น
สามารถขอวีซ่าญี่ปุ่นได้ที่กรุงเทพ, เชียงใหม่ และจังหวัดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ศูนย์ยื่นวีซ่าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ
- ที่ตั้ง
อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 15 ยูนิต C ถ. สีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
- เวลาเปิดทำการ
วันจันทร์ - ศุกร์ 08.30 - 18.00 น.
- วิธีการเดินทาง
- รถยนต์ส่วนบุคคล
- ลงสถานี BTS ศาลาแดง เดินมายังทางเชื่อมสู่อาคาร
- รถเมล์สาย 1-18E (504), 15, 177,4-7E (21),77,77 (ปอ.) (AC)
- ลง mrt สายสีลม จากนั้นเดินมายังทางเดินเชื่อมสู่อาคาร
- เบอร์โทรติดต่อ
02-251-5197 / 02-251-5198
เปลี่ยนเวลาทำการของศูนย์รับยื่นขอวีซ่าญี่ปุ่น (กรุงเทพฯ) เป็น 8.30น. - 17.00น. ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป
2. ศูนย์ยื่นวีซ่าญี่ปุ่นเชียงใหม่
- ที่ตั้ง
90 อาคารแอร์พอร์ต บิซิเนส พาร์ก ห้อง 104-107 ถนนมหิดล ตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50100
- เวลาเปิดทำการ
วันจันทร์- วันศุกร์ เวลา 08 : 30 น. – 18 : 00 น.
- วิธีการเดินทาง
รถยนต์ส่วนบุคคล
- เบอร์โทรติดต่อ
โทรศัพท์ 052-012500 ต่อ 102
- ข้อมูลอื่น ๆ
ผู้ที่พำนักอยู่ใน 9 จังหวัดภาคเหนือได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน และ พะเยา จะต้องยื่นคำร้องขอวีซ่าที่สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่นจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น
3. ศูนย์ยื่นวีซ่าญี่ปุ่น จังหวัดอื่นๆ
- ที่ตั้ง
ดำเนินการได้ที่ ที่ทำการไปรษณีย์สงขลา ชลบุรี ระยอง พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา พิษณุโลก อุบลราชธานี ขอนแก่น เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต
- เวลาเปิดทำการ
วันจันทร์- วันศุกร์ เวลา 08 : 30 น. – 16 : 30 น.
- วิธีการเดินทาง
รถยนต์ส่วนบุคคล
- เบอร์โทรติดต่อ
02-632-1541-4 (เบอร์เดียวกับศูนย์ยื่นวีซ่าญี่ปุ่นกรุงเทพ)
- ข้อมูลอื่น ๆ
คิดค่าบริการออกวีซ่าเพิ่มเติม 140 บาท
ค่าใช้จ่ายในการขอยื่นวีซ่าเพื่อเดินทางเข้าญี่ปุ่น
หากเพื่อน ๆ เดินทางเข้าญี่ปุ่นเพื่ออยู่อาศัยเกิน 15 วัน สามารถขอวีซ่าได้ 3 แบบ
- วีซ่าทั่วไป 790 บาท
- วีซ่า Multiple (สำหรับนักท่องเที่ยวผู้เคยเดินทางเข้าญี่ปุ่น ภายในระยะเวลา 3 ปี และเหมาะแก่นักท่องเที่ยวที่ประสงค์เดินทางเข้าญี่ปุ่นหลายครั้ง) 1,570 บาท
- วีซ่า Transit 180 บาท
หลังจากทราบกันไปแล้วว่าไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม เดินทางเข้าญี่ปุ่นต้องทำอย่างไรและมีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ก็อย่าลืมตรวจเช็กสภาพอากาศให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง เพื่อให้เที่ยวญี่ปุ่นอย่างปลอดภัยด้วยนะ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าฤดูมรสุมของญี่ปุ่นอยู่ในช่วงหน้าร้อนที่ฝนตกหนักเป็นพิเศษ ทำให้การเดินทางไปฤดูดังกล่าวต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา มิเช่นแล้วอาจส่งผลกระทบต่อไฟล์ทบินที่ต้องดีเลย์ออกไป จนต้องเลื่อนแผนการเดินทางได้
สายกิน ช้อป เที่ยว เจแปนเลิฟเวอร์ ต้องมี บัตรเครดิต กรุงศรี เจซีบี แพลทินัม พร้อมรับสิทธิประโยชน์ดีๆ มากมาย เช่นรับเครดิตเงินคืน 3%* เมื่อใช้จ่ายที่ร้านอาหารทั่วโลก รับเครดิตเงินคืน 1%* เมื่อใช้จ่ายที่ประเทศญี่ปุ่นและประเทศที่ร่วมรายการ บริการ Airport Lounge ที่สนามบินในประเทศญี่ปุ่นและอีก 9 ประเทศที่ร่วมรายการ และประกันอุบัติเหตุการเดินทาง ทั้งในและต่างประเทศ มีบัตรไว้เที่ยวญี่ปุ่นสนุก คุ้มแน่นอน สมัครเลย!
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
- ไปญี่ปุ่นต้องเตรียมอะไรบ้าง
- เตรียมตัวอย่างไรให้ผ่าน Visit Japan อย่างฉลุย