ไหน ๆ ไตรมาสสุดท้ายนี้ใครมีแผนที่จะเดินทางต่างประเทศบ้าง สำหรับที่กำลังมีแผนเดินทางในช่วงนี้ เชื่อได้เลยว่าหลายๆ คนคงวุ่นอยู่จัดกระเป๋าเตรียมสัมภาระเพื่อที่จะเอาไปใช้เมื่อใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน
แต่ ๆ ๆ เดี๋ยวก่อน ก่อนที่คุณจะจัดสัมภาระเพื่อไปเที่ยว ต้องควรรู้ก่อนว่ามีของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินอะไรบ้าง เพราะแต่ละสายการบินจะมีมาตรการของต้องห้ามสำหรับขึ้นเครื่องบิน
โดยคุณจะไม่สามารถนำของบางสิ่งโหลดลงใต้เครื่องได้ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายของอากาศยานและผู้โดยสารอื่น ๆ ได้ ดังนั้น
ก่อนเดินทางต้องรู้ กับ 10 ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินที่มือใหม่ควรต้องทราบ เพื่อความปลอดภัยของคุณและการเดินทาง
ทำไมถึงควรรู้ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน
เนื่องจากในระหว่างที่บินอยู่อาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เพราะสิ่งของบางสิ่งบางอย่างอาจส่งผลร้ายแรงต่อสายการบินและผู้โดยสารคนอื่น ๆ ได้
เนื่องจากเวลาที่เครื่องบินกำลังบินอยู่นั้นอาจเกิดการกระแทกที่รุนแรงจนทำให้สิ่งของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินการเกิดความเสียหายจนส่งผลร้ายแรงต่อการเดินทางในครั้งนี้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของการเดินทาง ทางสายการบินจึงทำการกำหนดของที่ห้ามสำหรับขึ้นเครื่องบินไว้
10 ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน
1. เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ของเหลว เจล สเปรย์
แค่ของเหลวทำไมต้องกลัวขนาดนั้น ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าของเหลวหรือเรียกอีกอย่างนึงว่า LAGs ย่อมาจาก Liquids ,Aerosols and Gels หรือ ของเหลว เจล สเปรย์
เป็นการกำหนดโดยองค์การบินพลเรือน ให้เป็นสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินเนื่องจากของเหลวปริมาณ 100 มิลลิลิตรขึ้นไป สามารถนำไปใช้เพื่อการเป็นสารตั้งต้นของการทำระเบิดได้
แน่นอนว่าทางสายการบินไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น จึงทำให้มีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินว่า ห้ามนำเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ของเหลว เจล สเปรย์ ขึ้นเครื่องบินตามข้อกำหนดดังนี้
- ต้องมีความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตรต่อ 1 ชิ้น
- เมื่อของเหลวมารวมกันต้องไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร
- ต้องแบ่งของเหลวทุกอย่างไว้ในขวดขนาดเล็กหรือใส่ถุงซิปล็อกหรือถุงใสเอาไว้
- การบรรจุของเหลวต้องไม่มีรอยเปิด แกะ หรือฉีกขาด
2. แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank)
อีกหนึ่งสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน ที่มีความอันตรายซ่อนอยู่ เนื่องจากแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank)หากเก็บในห้องสัมภาระอาจเกิดการระเบิดได้ เนื่องจากห้องสัมภาระเป็นห้องที่มีความร้อนสูง
จึงมีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินว่าสามารถนำแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank)พกติดตัวขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องอยู่ในความจุที่สายการบินนั้นกำหนดไว้ดังนี้
- แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank)ต้องมีความจุไม่เกิน 20,000 มิลลิแอมป์
- แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank)ความจุตั้งแต่ 20,000- 32,000 มิลลิแอมป์ นำขึ้นเครื่องบินได้ไม่เกิน 2 ก้อน
- แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank)ความจุมากกว่า 32,000 มิลลิแอมป์ ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้
3. อาวุธ ของมีคม
อาวุธ ของมีคม ถือว่าเป็นสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินระดับต้น ๆ เนื่องจากอาวุธ ของมีคมอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการทำร้ายร่างกายหรือก่อการร้ายในการเดินทางได้ ดังนั้นจึงมีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินว่าห้ามนำอาวุธ ของมีคม หรือสิ่งเทียมอาวุธเข้าสนามบินหรือขึ้นเครื่องบินเด็ดขาด โดยอาวุธ ของมีคม ที่ห้ามจะมีด้วยกันดังนี้
- ปืน
- สนับมือ
- คัตเตอร์
- ดาบ
- กระบอง
- ระเบิด
- ปืนเด็กเล่น
- มีดพก
- สนับมือ
4. สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
มาทำความเข้าใจก่อนว่า แต่ละประเทศมักจะมีกฎหมายในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์กลายเป็นอีกหนึ่งของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน
เนื่องจากสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์คือการนำผลงานของผู้อื่นมาใช้ เผยแพร่ ดัดแปลง ทำซ้ำ โดยผู้เป็นเจ้าของผลงานไม่อนุญาตหรือไม่ได้รับทราบ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายของแต่ละประเทศนั้น ๆ หากเจ้าหน้าที่ตรวจเจออาจโดนยึดหรือถึงขั้นถูกดำเนินคดีได้
จึงทำให้สายการบินมีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินว่าห้ามนำสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด ซึ่งสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ยกตัวอย่างเช่น
- สินค้าการแบรนด์ดัง
- สิ่งประดิษฐ์
- วรรณกรรม
- ศิลปกรรม
- และอื่นๆ
5. วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด
วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด ของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด เนื่องจากวัตถุไวไฟ วัตถุระเบิดเป็นต้นตอของปัญหาที่อาจส่งผลต่อผู้โดยสารและความเสียหายบนเครื่องบินได้
กรณีร้ายแรงอาจส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ทำให้การเดินทางล่าช้า แย่ไปกว่านั้นอาจส่งผลทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต จึงทำให้มีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินก็คือ ห้ามนำวัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด ขึ้นเครื่องบิน เช่น ก๊าซ ดอกไม้ไฟ และระเบิด
อีกสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินเลย คือ ห้ามเล่นอะไรแผลง ๆ เช่น การตะโกนหลอกเพื่อนร่วมทริปว่า “มีระเบิด, ในกระเป๋ามีระเบิด, ระวังเจอระเบิดบนเครื่องบินนะ, เดี๋ยวจะระเบิดสนามบินซะเลย เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงตามกฎหมาย
มีโทษตามกฏหมาย
6. อาหารที่มีกลิ่นแรง
การเดินทางที่ดี คือการเดินทางที่ไม่รบกวนผู้อื่น ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง ซึ่งกลิ่นถือว่าเป็นสิ่งรบกวนอย่างหนึ่งในการนั่งเครื่องบิน ดังนั้นสำหรับของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินอาหารที่มีกลิ่นแรงเป็นอีกหนึ่งข้อห้ามที่คุณควรให้ความสำคัญ
ดังนั้นทางสายการบินจึงมีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน คือ ไม่อนุญาตให้นำอาหารที่มีกลิ่นแรงขึ้นเครื่องบิน เพราะอาจส่งกลิ่นรบกวนต่อผู้โดยสารท่านอื่น ๆ อาทิเช่น ทุเรียน ปลาร้า น้ำพริก น้ำปลา และอาหารแห้งบางชนิด แต่ถ้าเป็นสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ ควรบรรจุอยู่ในภาชนะหีบห่ออย่างมิดชิด อย่าให้มีกลิ่นออกมาและไม่หกเลอะเทอะ
7. สัตว์มีพิษ
เนื่องจากสัตว์มีพิษ เป็นต้นตอของความวุ่นวายและเรื่องร้ายตามมา จึงทำให้สัตว์มีพิษเป็นอีกของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน เนื่องจากอาจทำให้ผู้โดยสารท่านอื่น ๆ ได้รับบาดเจ็บได้
จึงได้มีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินว่า ห้ามนำสัตว์มีพิษหรือสัตว์ดุร้ายขึ้นมาในเครื่อง ยกเว้นสัตว์เลี้ยงเช่น หมา แมว กระต่าย ที่บางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้แต่ต้องมีอายุมากกว่า 2 เดือนขึ้นไป มีใบตรวจสุขภาพจากสัตวแพทย์ โดยต้องระบุรายละเอียดของสัตว์เลี้ยงชัดเจนและเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบินนั้น ๆ ซึ่งทางสายการบินจะนำสัตว์เลี้ยงของเราบรรทุกไว้ที่สัมภาระพิเศษใต้ท้องเครื่อง
8. สารอันตรายต่างๆ หรือสารเสพติด
เป็นสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินที่อาจส่งผลอันตรายต่อการเดินทางเลยก็ว่าได้ เนื่องจากสารอันตรายต่าง ๆ หรือสารเสพติด เป็นปัญหาที่อาจส่งผลต่อผู้โดยสารและความเสียหายบนเครื่องบินได้
กรณีร้ายแรงอาจส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ทำให้การเดินทางล่าช้า แย่ไปกว่านั้นอาจส่งผลทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตได้ จึงทำให้มีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินว่าห้ามนำสารอันตรายต่าง ๆ หรือสารเสพติดขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด
เพราะอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งสารอันตรายต่าง ๆ หรือสารเสพติด อย่างเช่น สารเสพติด สารติดเชื้อ วัสดุกัมมันตรังสี น้ำกรด ปรอท ไนโตรเจนเหลว สารพิษ ยาฆ่าแมลง สารหนู หรือวัตถุที่ระบุไว้ในข้อบังคับสินค้าอันตราย
9. ของประดับมูลค่าแพง
อย่าให้การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยความทุกข์ใจด้วยของประดับมูลค่าแพง เพราะถ้าหายหรือถูกขโมยขึ้นมา อาจส่งผลให้การเดินทางครั้งนี้มีแต่ความทุกข์ใจ จะดีกว่าไหมถ้าคุณเอาของประดับมูลค่าแพงเอาไว้ที่บ้าน เพื่อการเดินทางที่สะดวกและปลอดภัย
ทางสายการบินเห็นถึงความสำคัญในข้อนี้จึงมีข้อกำหนดสิ่งที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบิน คือ ไม่อนุญาตให้โหลดของที่มีมูลค่ามากกว่า 2,500 ดอลลาร์ เช่น อัญมณี สร้อยเพชร เงินสด และทรัพย์สินอื่น ๆ ที่มูลค่าสูง
10. เนื้อสัตว์ของสดหรือแช่แข็ง
ของต้องห้ามขึ้นเครื่องบินที่ไม่ควรมองข้าม เพราะว่าของสดเป็นสิ่งที่มีโอกาสสูงที่จะเน่าเสียและส่งกลิ่นเน่าเหม็นตามมา เป็นสิ่งอาจจะไปรบกวนผู้อื่นได้
ดังนั้นทางสายการบินจึงมีข้อกำหนดห้ามเนื้อสัตว์ของสดหรือแช่แข็งขึ้นเครื่อง เพื่อความสงบสุขในการเดินทาง โดยเนื้อสัตว์ของสดหรือแช่เเข็งจะมีด้วยกันคือ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลาแช่แข็ง เป็นต้น
ถือได้ว่าสิ่งของที่ห้ามเอาขึ้นเครื่องบินเป็นสิ่งที่คุณต้องรู้อย่างยิ่ง เพื่อให้การเดินทางด้วยเครื่องบินของคุณมีความราบรื่น ปลอดภัย
สำหรับใครมีแผนที่จะเดินทางไปต่างประเทศหรือมีแผนที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น จะดีกว่าไหมถ้า ทริปญี่ปุ่นของคุณสะดวกสบายและประหยัดมากขึ้น ด้วย
สมัครบัตรเครดิต กรุงศรี เจซีบี แพลทินัม สามารถรับบริการ Airport Lounge ทุกสนามบินในประเทศญี่ปุ่น และเครดิตเงินคืน เมื่อใช้จ่ายที่ร้านอาหารทั่วโลก บอกเลยว่าสะดวก ง่าย และคุ้ม