เหมาะกับการเดินทาง 1-3 วัน ทริปเร่งด่วนหรือการเดินทางไปติดต่อธุรกิจ ที่เราอาจจะไม่มีโอกาสได้แวะซื้อของฝากหรือชอปปิงก่อนกลับได้มากนัก จึงควรเลือกกระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก เน้นคล่องตัว จัดกระเป๋าเดินทางแค่ของใช้ที่จำเป็น
เหมาะกับการเดินท่องเที่ยวแบบพอดี ๆ มีพื้นที่ที่สามารถใส่เสื้อผ้าได้แบบเหลือ ๆ ยิ่งถ้าจัดกระเป๋าเดินทางดี ๆ ก็อาจจะมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการช้อปของฝากกลับมาด้วย
เหมาะสำหรับทริประยะยาว หรือบินไปเที่ยวช่วงหน้าหนาว จึงควรใช้กระเป๋าที่มีความจุเยอะ จะได้จัดกระเป๋าแบบจัดเต็มทั้งเสื้อผ้าและของใช้จำเป็น รวมไปใส่เสื้อกันหนาวหนา ๆ ได้แบบสบาย ๆ
สำหรับใครที่เลือกกระเป๋าเดินทางแบบล้อลาก ลองมาดูเคล็ดลับวิธีการจัดกระเป๋าเดินทาง ที่ช่วยเพิ่มความเป็นระเบียบและประหยัดพื้นที่ จะจัดกระเป๋าเดินทางทั้งที การรู้ทริกดี ๆ เอาไว้ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้แน่นอน ซึ่งเคล็ดลับวิธีจัดกระเป๋าเดินทางแบบล้อลาก มีดังนี้
เพราะการม้วนเสื้อผ้าเป็นวิธีพื้นฐานในการจัดกระเป๋าเดินทาง ที่ช่วยให้เสื้อผ้าของเราเรียงตัวเป็นระเบียบ พร้อมทั้งช่วยให้เราหยิบชุดได้ง่ายขึ้น ซึ่งหากทำถูกวิธีก็ช่วยไม่ให้ผ้ายับมาก เหมาะกับการจัดกระเป๋าเดินทางไเที่ยวต่างประเทศสุด ๆ โดยขั้นตอนการม้วนผ้า มีดังนี้
• แผ่เสื้อบนพื้นที่เรียบ เพื่อง่ายต่อการม้วน
• ใช้มือกดผ้าให้เรียบเสมอกัน จากนั้นพับเสื้อด้านซ้าย-ขวา เข้าหากัน และพับเก็บแขนเสื้อเหมือนตอนพับเสื้อปกติ
• หลังจากนั้นเสื้อจะกลายเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ให้ทำการม้วนจากคอเสื้อลงมา
• ม้วนผ้าให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ และกดผ้าระหว่างม้วน เพื่อลดรอยยับ
สำหรับใครที่จัดทริปตรงกับช่วงหน้าหนาวพอดี การจัดกระเป๋าเดินทางของคุณจะขาดสิ่งนี้ไปไม่ได้ เพราะถุงสุญญากาศจะช่วยบรรจุเสื้อกันหนาวให้มีขนาดเล็กลงกว่าขนาดจริง ทำให้ประหยัดพื้นที่ในกระเป๋าเดินทางได้อีกเพียบ ซึ่งวิธีใช้ก็ง่ายมาก เพียงนำเสื้อกันหนาวใส่ถุงสุญญากาศ จากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดรีดอากาศออก แล้วปิดจุกสุญญากาศให้เรียบร้อย
เพื่อการจัดเก็บเป็นสัดเป็นส่วน สามารถหยิบใช้ได้สะดวก และเพื่อไม่ให้บราเสียทรงให้พับกางเกงชั้นในไปใส่ไว้ตรงช่องว่าง เพียงเท่านี้ชุดชั้นในก็จะเป็นระเบียบมากขึ้น
การแบ่งหมวดหมู่สิ่งของเป็นวิธีการจัดกระเป๋าเดินทาง ที่ช่วยเพิ่มความมีระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น โดยเราสามารถแยกหมวดหมู่ของใช้ได้ เช่น อุปกรณ์อาบน้ำ+ครีมบำรุงผิว+เครื่องสำอาง+ยา, อุปกรณ์ไฟฟ้า+สายชาร์จต่าง ๆ และเครื่องประดับ เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เราหาของง่ายขึ้น แถมจัดกระเป๋าเดินทางให้ดูเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้นด้วย
โดยวิธีจัดกระเป๋าเดินทางด้วยหลักพิระมิด คือ การจัดเรียงของลงกระเป๋า โดยวางของที่มีความหนาหรือน้ำหนักมากไว้ด้านล่าง เพื่อให้ฐานแน่น แล้วค่อย ๆ เรียงของเล็ก ๆ ไว้ด้านบน ซึ่งวิธีการ คือ วางเสื้อผ้าที่มีความหนาและน้ำหนักมากไว้ด้านล่างสุด เช่น กางเกง เสื้อหนาว จากนั้นหากใครมีเสื้อผ้าที่ม้วนไม่ได้ เช่น เชื้อเชิ้ต สูท เดรส ให้นำมาวางทับอยู่ด้านบนเสื้อผ้าที่เป็นฐานด้านล่าง และนำถุงเท้าหรือชุดชั้นใน วางไว้ตามมุมกระเป๋า จากนั้นเหลือพื้นที่ตรงกลางสำหรับกระเป๋าของใช้ส่วนตัวและของที่แตกง่าย เพื่อให้ของอื่น ๆ ช่วยประคองไว้ เพื่อลดความเสียหาย
เพื่อที่จะได้แยกเสื้อผ้าสะอาดออกจากเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว ลดกลิ่นอับชื้น โดยอาจจะเลือกใช้เป็นถุงตาข่ายที่สามารถระบายอากาศได้ดี
หากใครที่จัดกระเป๋าเดินทางแล้วยังมีพื้นที่ว่างเหลืออยู่ แนะนำให้หาสิ่งของมาวางอุดพื้นที่ให้เต็ม เช่น หมอนรองคอ กระเป๋า Tote Bag เป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวของในกระเป๋าเคลื่อนย้าย เกิดการกระจัดกระจาย ไม่เป็นระเบียบ
หากใครเป็นสายลุย เน้นความคล่องตัว ลองมาดูวิธีจัดกระเป๋าเดินทางแบบ Backpack กัน ซึ่งหลักการก็จะไม่ต่างจากวิธีจัดกระเป๋าเดินทางแบบล้อลากมากนัก มาดูกันว่ามีวิธีแนะนำแบบใดบ้าง
1. ม้วนเสื้อผ้าแทนการพับ และจัดเก็บลงในกระเป๋าให้เป็นระเบียบ
2. ซีลเสื้อผ้าชิ้นหนาด้วยถุงสุญญากาศ เพื่อบีบอัดให้เสื้อผ้าบางลงกว่าปกติ เพิ่มพื้นที่จัดเก็บในกระเป๋าเดินทาง Backpack มากขึ้น
3. แยกชุดชั้นในใส่กระเป๋าใบเล็ก
4. จัดหมวดหมู่ของใช้ แล้วแยกใส่กระเป๋าซิปล็อก
สำหรับวิธีจัดกระเป๋าเดินทาง Backpack แม้วิธีการเก็บของจะคล้ายกับกระเป๋าเดินทางแบบลาก แต่การจัดกระเป๋าเดินทางแบบเป้ ควรมีหลักการที่ถูกต้อง เพื่อการกระจายน้ำหนักที่ดี จะได้ไม่ทำให้เรารู้สึกแบกกระเป๋าหนักจนเกินไป ซึ่งการกระจายน้ำหนักที่ดี มีดังนี้
1. ของน้ำหนักเบา เช่น ถุงนอน อุปกรณ์การนอน หรือของที่มีน้ำหนักเบาและนุ่ม ควรจัดเก็บไว้ที่ก้นกระเป๋า
2. ของน้ำหนักมาก เช่น น้ำหรือเครื่องครัวพกพา ควรจัดเก็บไว้ติดกับแผ่นหลัง และอยู่ตำแหน่งตรงกลางระหว่างไหล่ทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้น้ำหนักกระจายลงไปให้สะโพกช่วยประคอง จะได้ไม่ปวดหลัง
3. ของน้ำหนักปานกลาง เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว อุปกรณ์อาบน้ำ หรือของที่ต้องหยิบใช้บ่อย ๆ ควรอยู่ด้านบนและด้านหน้าของกระเป๋า
4. ของที่หยิบใช้บ่อย เช่น ที่ชาร์จแบต แว่นกันแดด ยา ทิชชู ฯลฯ ควรจัดไว้อยู่ด้านบนสุดของกระเป๋า หรือตามช่องเล็ก ช่องน้อย ของกระเป๋า เพื่อสะดวกในการหยิบใช้
เพียงเท่านี้ทริปต่างประเทศก็สะดวกมากขึ้น เพียงแค่เรารู้วิธีจัดกระเป๋าเดินทางอย่างเหมาะสม นอกจากจะช่วยให้ข้าวของในกระเป๋ามีระเบียบ ยังช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้นอีกด้วย ยิ่งใครที่กำลังมีแพลนจัดทริปไปประเทศญี่ปุ่น แถมเตรียมตัวไปชอปแบบจัดเต็ม ก็อย่าลืมนำวิธีจัดกระเป๋าเดินทางไปใช้กันได้เลย รับรองว่าเหลือพื้นที่หิ้วของฝากเพียบ!
และเพื่อให้ทริปญี่ปุ่นของคุณมีความสะดวกสบาย และเซฟค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น แนะนำบัตรเครดิตสำหรับการท่องเที่ยวโดยเฉพาะอย่าง บัตรเครดิต กรุงศรี เจซีบี แพลทินัม ที่สามารถใช้บริการ Airport Lounge ทุกสนามบินในประเทศญี่ปุ่น พร้อมรับส่วนลดและเครดิตเงินคืน 3% เมื่อใช้จ่ายที่ร้านอาหารทั่วโลก คุ้มค่าทุกการเดินทางแบบนี้ ใครมีแพลนไปเที่ยวญี่ปุ่น รีบสมัครเลย!