การมีประกันสุขภาพเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล และเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องใช้สิทธิประกัน ผู้ถือกรมธรรม์จำเป็นต้องเข้าใจขั้นตอนและเงื่อนไขของการเคลมประกันสุขภาพอย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถใช้สิทธิได้อย่างเต็มที่ ลดความล่าช้าในการอนุมัติ และป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง
มีประกันสุขภาพ 2 ฉบับ เคลมยังไง ?
1. เคลมจากประกันสุขภาพเพียงฉบับเดียว
หากค่ารักษาพยาบาลอยู่ภายในวงเงินความคุ้มครองของกรมธรรม์ฉบับใดฉบับหนึ่ง การเคลมประกันสุขภาพจากกรมธรรม์ฉบับนั้นเพียงฉบับเดียวเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกรมธรรม์นั้นมีเงื่อนไขความคุ้มครองที่ครอบคลุมการรักษาทั้งหมด และไม่มีส่วนร่วมจ่าย (Co-payment) ผู้เอาประกันสามารถเลือกเคลมจากกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์สูงสุดสำหรับการรักษานั้น ๆ ได้เลย
2. เคลมจากหลายกรมธรรม์
กรณีมีประกันสุขภาพมากกว่า 1 ฉบับ สามารถเคลมได้จากทุกกรมธรรม์ตามหลักการร่วมจ่าย (Coordination of Benefits) โดยมีแนวทางดังนี้
- เริ่มจากกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด หรือกรมธรรม์ที่ทำไว้เป็นลำดับแรก
- หลังจากได้รับเงินชดเชยจากกรมธรรม์หลักแล้ว นำใบเสร็จและหนังสือรับรองการจ่ายเงินจากบริษัทประกันแรกไปประกอบการเคลมประกันสุขภาพกับกรมธรรม์รอง
อย่างไรก็ตาม ต้องระวังว่าการเคลมรวมกันจากทุกกรมธรรม์จะไม่เกินค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้น เนื่องจากทุกบริษัทประกันใช้หลักการชดใช้ค่าสินไหมตามความเสียหายจริง (Principle of Indemnity) เพื่อป้องกันการแสวงหาผลกำไรจากการประกันภัย
ขั้นตอนการเคลมประกันสุขภาพ
ขั้นตอนการเคลมประกันสุขภาพสามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ การใช้สิทธิแบบไม่ต้องสำรองจ่าย (Cashless) และการสำรองจ่ายก่อนแล้วเคลมคืน (Reimbursement)
1. การใช้สิทธิแบบไม่ต้องสำรองจ่าย
วิธีนี้สะดวกและไม่สร้างภาระทางการเงินแก่ผู้เอาประกัน เนื่องจากบริษัทประกันจะเป็นผู้ชำระค่ารักษาพยาบาลให้โดยตรง มีขั้นตอนดังนี้
- ตรวจสอบว่าโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษาอยู่ในเครือข่ายของบริษัทประกันภัยหรือไม่ โดยสามารถเช็กได้จากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทประกัน หรือสอบถามจากเจ้าหน้าที่ Call Center
- เมื่อเข้ารับการรักษา ให้แจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิประกันสุขภาพพร้อมแสดงบัตรประกันหรือเลขที่กรมธรรม์ต่อเจ้าหน้าที่
- โรงพยาบาลจะติดต่อกับบริษัทประกันเพื่อตรวจสอบสิทธิและวงเงินคุ้มครอง ในขั้นตอนนี้อาจมีการขอเอกสารเพิ่มเติม หรือข้อมูลทางการแพทย์เพื่อประกอบการพิจารณา
- หลังจากบริษัทประกันอนุมัติสิทธิแล้ว จะชำระค่ารักษาพยาบาลให้แก่โรงพยาบาลตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์ โดยผู้เอาประกันจะต้องชำระเฉพาะส่วนที่เกินวงเงินความคุ้มครอง หรือส่วนที่ไม่อยู่ในความคุ้มครอง
2. การสำรองจ่ายก่อนแล้วเคลมคืน
ในกรณีที่ไม่สามารถใช้สิทธิแบบไม่ต้องสำรองจ่ายได้ เช่น โรงพยาบาลไม่อยู่ในเครือข่ายของบริษัทประกัน หรือเป็นการรักษาฉุกเฉิน สามารถสำรองจ่ายไปก่อนแล้วนำมาเคลมในภายหลังได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- จัดเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลฉบับจริง ใบรับรองแพทย์ที่ระบุการวินิจฉัยโรคและการรักษา รายละเอียดค่าใช้จ่าย ฯลฯ
- กรอกแบบฟอร์มเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนให้ครบถ้วน และนำส่งพร้อมเอกสารประกอบผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนด เช่น ส่งทางไปรษณีย์ ยื่นที่สาขาของบริษัท หรือส่งผ่านแอปพลิเคชัน
- เมื่อได้รับเอกสารครบถ้วน บริษัทประกันจะตรวจสอบความถูกต้องและพิจารณาจ่ายค่าสินไหมตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์
- โดยทั่วไป การเคลมแบบสำรองจ่ายจะใช้เวลาประมาณ 15 วันทำการ นับจากวันที่บริษัทได้รับเอกสารครบถ้วน ในกรณีที่ไม่มีข้อสงสัยหรือต้องการเอกสารเพิ่มเติม
เอกสารที่ต้องใช้ในการเคลมประกันสุขภาพ
- ใบคำร้องขอเคลมประกันสุขภาพ
- ใบรับรองแพทย์ที่มีรายละเอียดการวินิจฉัยและแผนการรักษา
- ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล (ฉบับจริง กรณีสำรองจ่าย)
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้เอาประกันภัย
- สำเนากรมธรรม์ประกันสุขภาพ
- เอกสารอื่น ๆ ตามที่บริษัทประกันร้องขอ เช่น ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ภาพถ่ายรังสี หรือประวัติการรักษาย้อนหลัง
นอกจากนี้ ในกรณีที่มีการเคลมจากกรมธรรม์แรกไปแล้ว และต้องการเคลมส่วนต่างจากกรมธรรม์ที่สอง จะต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติม ได้แก่
- หนังสือรับรองการจ่ายค่าสินไหมจากบริษัทประกันแรก ที่ระบุรายละเอียดค่ารักษาที่ได้รับการชดเชยไปแล้ว
- สำเนาใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล ที่ได้นำไปเคลมกับบริษัทประกันแรก
เคล็ดลับเพื่อให้ขั้นตอนการเคลมประกันสุขภาพรวดเร็วขึ้น
- ทำความเข้าใจขอบเขตความคุ้มครองและเงื่อนไขของกรมธรรม์แต่ละฉบับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อยกเว้น วงเงิน หรือข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถเลือกใช้สิทธิได้อย่างเหมาะสม
- เมื่อเข้ารับการรักษา ควรแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิประกันให้ชัดเจนตั้งแต่แรก เพื่อให้โรงพยาบาลจัดเตรียมเอกสารและประสานงานกับบริษัทประกันได้อย่างถูกต้อง
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง โดยเฉพาะใบรับรองแพทย์และใบเสร็จรับเงินต้องมีรายละเอียดครบถ้วน เพื่อลดโอกาสที่การเคลมประกันสุขภาพจะถูกปฏิเสธ
- บริษัทประกันภัยหลายแห่งมีบริการเคลมผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการดำเนินการ โดยสามารถถ่ายภาพเอกสารและอัปโหลดผ่านช่องทางนั้น ๆ ได้ทันที
- หากไม่ได้รับเงินเคลมภายในระยะเวลาที่กำหนด ควรติดต่อบริษัทประกันเพื่อตรวจสอบสถานะ
อย่างไรก็ดี เพื่อประโยชน์สูงสุดในการเคลมประกัน ควรเลือกจ่ายเบี้ยประกันด้วยบัตรเครดิตที่มอบสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับผู้ถือประกัน เช่น เครดิตเงินคืน หรือโปรโมชันผ่อน 0% ซึ่งสามารถเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการถือครองประกันสุขภาพของคุณได้มากขึ้น
บัตรเครดิตกรุงศรี วีซ่า ขอนำเสนอ
โปรโมชันบัตรเครดิตจ่ายชำระเบี้ยประกัน ให้คุณรูดรับคุ้ม พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 20,000 บาท ผ่านแอปฯ UCHOOSE ลงทะเบียนง่าย ๆ เพียงค้นหา “INS1” ใน UCHOOSE หรือส่ง SMS พิมพ์ INS1 (วรรค) หมายเลขบัตรเครดิต 16 หลัก ไปที่ 08 1927 9999 แล้วรอรับข้อความยืนยันได้เลย
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ยสูงสุด 16% ต่อปี
ข้อมูลอ้างอิง:
- แจกครบวิธีเคลมประกัน ทั้งสุขภาพ อุบัติเหตุ และกรณีเสียชีวิต. สืบค้นเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 จาก https://gettgo.com/blog/how-to-claim-insurance.
- วิธีปฏิบัติในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ. สืบค้นเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 จาก https://www.chubb.com/th-th/customer-service/general-claim-procedure-for-accident-health.html.
