iPhone 16 vs 15 เปรียบเทียบรุ่นไอโฟน (iPhone)
หลังจากเปิดตัว iPhone 16 ในงาน Apple Event เดือนกันยายน 2024 ซึ่งเป็นที่ฮือฮาในวงการ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ที่หลายคนรอคอย Apple ยังคงตอกย้ำตำแหน่งผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม ด้วยฟีเจอร์ที่ทันสมัยและดีไซน์ที่โดดเด่น โดย iPhone 16 ได้ยกระดับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนขึ้นไปอีกขั้น พร้อมการปรับปรุงระบบหลายๆ ด้านที่สำคัญ
แล้ว iPhone 16 แตกต่างจาก iPhone 15 อย่างไร? วันนี้กรุงศรีจะมาสรุปข้อมูลการเปรียบเทียบสเปค iPhone ของทั้งสองรุ่น รวมถึงข้อมูลสำคัญเพื่อช่วยให้คุณเลือกได้ว่ารุ่นไหนเหมาะสมกับคุณมากกว่า!
iPhone 16 ต่างจาก 15 อย่างไร
iPhone 16 มาพร้อมกับการปรับปรุงที่สำคัญในหลายๆ ด้าน ซึ่งถึงแม้เทียบรุ่นไอโฟน 15 ภายนอกหน้าตาอาจจะดูคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เช่น การจัดวางกล้องแนวตั้ง, ชิปประมวลผล Bionic A18 ที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างมาก, และการใช้ระบบ AI ที่ชาญฉลาดขึ้นเพื่อการประมวลผลที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
ซึ่งนอกจากนี้ iPhone 16 ยังมาพร้อมกับการปรับปรุงในด้านการแสดงผลที่คมชัดยิ่งขึ้น, อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น, และการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรยิ่งกว่าเดิม ทำให้เป็นการอัปเกรดที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ใช้ iPhone รุ่นเก่าหรือผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่
ดีไซน์ iPhone 16 เปรียบเทียบ iPhone 15
เมื่อพูดถึงสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม ดีไซน์ถือเป็นหนึ่งในจุดที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ และ Apple ก็ยังคงรักษามาตรฐานในด้านนี้ได้ดีเยี่ยม ซึ่งสำหรับ iPhone 16 มีการเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์หลายจุดเมื่อเปรียบเทียบกับ iPhone 15 ได้แก่
- กล้องแนวตั้ง: iPhone 16 มีการปรับดีไซน์กล้องกลับมาเป็นแนวตั้งคล้ายกับ iPhone 11 ซึ่งต่างจาก iPhone 15 ที่ยังคงใช้รูปแบบจัดวางกล้องเป็นสี่เหลี่ยม การออกแบบใหม่นี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงาม แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพและวิดีโออีกด้วย
- ปุ่มใหม่: iPhone 16 เพิ่มปุ่ม Action และ Capture เพื่อให้การเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งปุ่ม Action ได้ตามต้องการ ขณะที่ปุ่ม Capture ช่วยให้การถ่ายภาพและวิดีโอทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
- น้ำหนัก: แม้ความแตกต่างจะเพียงเล็กน้อย แต่ iPhone 16 น้ำหนักเบากว่า iPhone 15 ประมาณ 1 กรัม สะท้อนถึงความพยายามในการปรับปรุงด้านการออกแบบและการผลิตของ Apple ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- วัสดุ: วัสดุของ iPhone 16 ยังคงคุณภาพระดับพรีเมียม แต่มีการเพิ่มความแข็งแรงของกระจกหน้าจอและด้านหลัง เพื่อให้ทนทานต่อการตกหล่นและการใช้งานที่หนักขึ้น รวมถึงจอภาพ Super Retina XDR ที่ช่วยให้การแสดงผลชัดเจนและคมชัดยิ่งขึ้น
ฟังก์ชันกล้องที่ได้รับการพัฒนาใน iPhone 16
ระบบกล้องใน iPhone 16 มาพร้อมกับการปรับปรุงระบบที่น่าสนใจ ดังนี้
- การถ่ายภาพมาโครที่คมชัดและภาพแบบ 3 มิติที่สร้างมิติใหม่ให้กับภาพถ่ายมากยิ่งขึ้น
- เลนส์เคลือบสารกันแสงสะท้อนที่ช่วยลดแสงจ้าและเงา ทำให้ภาพถ่ายมีคุณภาพดีขึ้น
- สามารถบันทึกวิดีโอแบบมิติพื้นที่ได้ที่ความละเอียด 1080p ที่ 30 fps ทำให้สามารถสร้างวิดีโอคุณภาพสูงได้
- รองรับการบันทึกวิดีโอแบบมาโคร สโลว์โมชัน และไทม์แลปส์ ให้ความหลากหลายในการสร้างสรรค์คอนเทนต์
- ระบบลดเสียงรบกวนและปรับเสียงในวิดีโออัตโนมัติ ทำให้เสียงในวิดีโอคมชัดมากขึ้น
- AI ช่วยปรับแต่งภาพอัตโนมัติ ทำให้ภาพถ่ายสวยงามโดยไม่ต้องแก้ไขมาก
นอกจากนี้ระบบกล้องยังปรับปรุงการถ่ายภาพในที่แสงน้อยและโหมดอัตโนมัติให้แม่นยำขึ้น ช่วยให้ถ่ายภาพได้คมชัดยิ่งขึ้นแม้ในสภาพแสงไม่เพียงพอ
iPhone 16 เปรียบเทียบจอภาพรุ่นนี้ มีอะไรที่ต่างจากรุ่นที่แล้วบ้าง
จอภาพของ iPhone 16 ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยการยกระดับประสบการณ์การมองเห็นครั้งสำคัญ มีการปรับปรุงหลายอย่างที่ทำให้จอภาพของ iPhone 16 โดดเด่นในแสดงผล ดังนี้
- iPhone 16 และ iPhone 16 Plus: มาพร้อมกับจอ OLED Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว ตามลำดับ ให้การแสดงผลที่คมชัดและสีสันสมจริง
- iPhone 16 Pro: จอขนาด 6.3 นิ้ว ซึ่งใหญ่ขึ้นเล็กน้อยจาก iPhone 15 Pro (จากเดิม 6.1 นิ้ว) ทำให้มีพื้นที่การใช้งานมากขึ้น
- iPhone 16 Pro Max: จอขนาด 6.9 นิ้ว (ใหญ่ขึ้นจาก 6.7 นิ้วในรุ่น iPhone 15 Pro Max) เพิ่มพื้นที่การมองเห็นสำหรับการรับชมวิดีโอและการเล่นเกม
- ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต: เพิ่มขึ้นจาก iPhone 15 ทำให้สามารถใช้งานกลางแจ้งได้ดีกว่า โดยยังคงความคมชัดและสีสันที่สดใสแม้ในสภาพแสงจ้า
- ProMotion Technology: อัตรารีเฟรชที่ปรับได้ตั้งแต่ 1-120Hz ทำให้การเลื่อนหน้าจอและการดูวิดีโอเป็นไปอย่างนุ่มนวลยิ่งขึ้น และช่วยประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานกับเนื้อหาที่ไม่ต้องการอัตรารีเฟรชสูง
- รองรับ HDR และ Dolby Vision: ช่วยให้การแสดงผลวิดีโอและภาพถ่ายมีความสมจริงและมีสีสันสดใส
- Ceramic Shield: จอภาพใช้กระจกป้องกันที่แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม 50% ช่วยลดความเสี่ยงจากการแตกร้าว
จากการปรับปรุงเหล่านี้ iPhone 16 ยกระดับการใช้งานในด้านจอแสดงผลไปอีกขั้น ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นทั้งในด้านภาพและการใช้งานทั่วไป
ชิป A18 ใน iPhone 16 ที่จะปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟน
ชิป A18 ใน iPhone 16 ไม่ใช่เพียงแค่การอัปเกรดธรรมดา แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ยกระดับประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนอย่างมหาศาล ด้วยเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงและความสามารถที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับชิป A17 ใน iPhone 15
- ขนาด 3 นาโนเมตร: ชิป A18 ใช้กระบวนการผลิตที่เล็กลงจาก 5 นาโนเมตรในชิป A17 ซึ่งทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นและประมวลผลได้เร็วขึ้น
- RAM 8GB: ความจุ RAM เพิ่มขึ้นจาก 6GB ใน iPhone 15 ช่วยให้การทำงานหลายแอพพลิเคชันพร้อมกันเป็นไปได้อย่างลื่นไหล
- รองรับ Wi-Fi 7: ระบบการเชื่อมต่อไร้สายที่เร็วขึ้นและเสถียรกว่า Wi-Fi 6 ใน iPhone 15 ทำให้การดาวน์โหลดและการใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นไปอย่างราบรื่น
- ประสิทธิภาพ CPU เพิ่มขึ้น 20% และ GPU เพิ่มขึ้น 30%: ช่วยในการประมวลผลกราฟิกและการใช้งานแอปที่ต้องการพลังงานสูง เช่น การเล่นเกม และการตัดต่อวิดีโอ
- Neural Engine เร็วขึ้น 2 เท่า: รองรับการประมวลผลด้าน AI และ Machine Learning ทำให้การทำงานของระบบ AI ฉลาดและรวดเร็วมากขึ้น
- ประหยัดพลังงานมากขึ้น 30%: ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น แม้จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม
ชิป A18 นำเสนอนวัตกรรมที่เพิ่มประสิทธิภาพในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม การใช้งานแอปที่ต้องการพลังประมวลผลสูง หรือการสร้างสรรค์คอนเทนต์ในรูปแบบ AR ก็สามารถทำได้รวดเร็วและมีความเสถียรสูงมากขึ้น
ปรับปรุงแบตเตอรี่พร้อมกับการชาร์ตที่เร็วขึ้น
Apple ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ด้วยการปรับปรุงแบตเตอรี่ใน
iPhone 16 อย่างครอบคลุม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานและความสะดวกสบายในการชาร์จให้มากยิ่งขึ้น
- ความจุแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้น: จาก 3,349 mAh ใน iPhone 15 เป็น 3,561 mAh ใน iPhone 16 ซึ่งช่วยให้สามารถใช้งานได้นานขึ้นประมาณ 2-3 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- รองรับการชาร์จไร้สาย MagSafe: เพิ่มกำลังการชาร์จสูงสุดเป็น 25W จากเดิมที่รองรับเพียง 15W ใน iPhone 15 ทำให้ชาร์จแบตได้เร็วขึ้น
- ชาร์จได้ 50% ในเวลา 30 นาที: ด้วยอะแดปเตอร์ขนาด 30W หรือสูงกว่า ช่วยให้ผู้ใช้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีเวลาจำกัด
- ระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ: iPhone 16 มาพร้อมกับ AI ที่เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ เพื่อปรับการใช้พลังงานอย่างเหมาะสม ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ในระยะยาว
- รองรับการชาร์จแบบย้อนกลับ: คุณสมบัติ Reverse Wireless Charging ทำให้ iPhone 16 สามารถชาร์จอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น AirPods ได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ
การอัปเกรดเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้ iPhone 16 ใช้งานได้ยาวนานขึ้นตลอดทั้งวันและชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่อจำเป็น
Apple Intelligence ระบบ AI ที่จะช่วยให้สมาร์ทโฟนของคุณใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
iPhone 16 มาพร้อมกับ
Apple Intelligence ซึ่งเป็นระบบ AI ส่วนบุคคลที่พัฒนาให้ใช้งานง่ายและชาญฉลาดขึ้น มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ทำให้สมาร์ทโฟนของคุณเป็นมากกว่าเครื่องมือสื่อสารธรรมดา
- เครื่องมือการเขียนใหม่: ช่วยในการเขียนและแก้ไขข้อความ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมลหรือเขียนเอกสาร โดย AI จะช่วยตรวจสอบไวยากรณ์ แนะนำคำศัพท์ และปรับแต่งน้ำเสียงของข้อความให้เหมาะสม
- Image Wand: ฟีเจอร์สร้างและแก้ไขภาพด้วย AI สามารถสร้างภาพจากคำอธิบายหรือปรับแต่งภาพด้วยคำสั่งเสียง ทำให้การจัดการภาพง่ายและรวดเร็ว
- Genmoji: สร้างอิโมจิเฉพาะตัวด้วยการวิเคราะห์ใบหน้าและสไตล์ของผู้ใช้ เพิ่มความสนุกสนานและความเป็นส่วนตัวในการสื่อสาร
- Siri ที่ฉลาดขึ้น: สามารถเข้าใจคำสั่งที่ซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงสามารถทำงานในโหมดออฟไลน์และร่วมกับแอพพลิเคชันจากบุคคลที่สามได้ดีขึ้น
- การปกป้องความเป็นส่วนตัว: Apple Intelligence ประมวลผลข้อมูลทั้งหมดบนตัวเครื่องเท่านั้น ไม่มีการส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของผู้ใช้จะได้รับการปกป้องอย่างดี
- ระบบแนะนำอัจฉริยะ: AI จะเรียนรู้จากพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ และแนะนำการตั้งค่าหรือแอพที่เหมาะสมตามบริบท
- การแปลภาษาแบบเรียลไทม์: รองรับการแปลหลายภาษาได้ทันที โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และยังสามารถแปลข้อความในรูปภาพได้ด้วย
Apple Intelligence ถือเป็นก้าวสำคัญในการนำ AI มาปรับใช้กับสมาร์ทโฟน โดยเน้นความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการใช้งาน ทำให้ iPhone 16 เป็นสมาร์ทโฟนที่ชาญฉลาด เป็นส่วนตัวและตอบสนองการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
ราคา iPhone 16 เทียบกับรุ่น iPhone 15
iPhone 16 ที่เปิดตัวในปีนี้มีการปรับราคาขึ้นเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับ iPhone 15 แต่การเพิ่มประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยทำให้การลงทุนถือว่าคุ้มค่า โดยมีรายละเอียดราคาเปรียบเทียบดังนี้:
- iPhone 16:
- 128GB: 29,900 บาท (เพิ่มจาก iPhone 15: 26,900 บาท)
- 256GB: 33,900 บาท (เพิ่มจาก iPhone 15: 30,900 บาท)
- 512GB: 41,900 บาท (เพิ่มจาก iPhone 15: 38,900 บาท)
แม้ว่าราคา iPhone 16 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 3,000 บาทต่อรุ่น แต่ก็มีการปรับปรุงในด้านต่าง ๆ ทั้งการออกแบบใหม่ ระบบกล้องที่ดีขึ้น ชิปประมวลผล A18 ที่ล้ำสมัย และฟีเจอร์ AI อัจฉริยะ ที่ทำให้ใช้งานได้ลื่นไหลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
iPhone 16 มีรุ่นไหนบ้าง มีกี่สี ราคาเท่าไหร่
ในซีรีส์ iPhone 16 นี้ Apple ได้เปิดตัวทั้งหมด 4 รุ่น โดยแต่ละรุ่นมีสีและความจุที่แตกต่างกัน รวมถึงราคาที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ ดังนี้
- iPhone 16 (6.1 นิ้ว)
สี: ดำ, ขาว, ชมพู, เขียวอมฟ้า, น้ำเงินอัลตรามารีน
- 128GB: 29,900 บาท
- 256GB: 33,900 บาท
- 512GB: 41,900 บาท
- iPhone 16 Plus (6.7 นิ้ว)
สี: ดำ, ขาว, ชมพู, เขียวอมฟ้า, น้ำเงินอัลตรามารีน
- 128GB: 34,900 บาท
- 256GB: 38,900 บาท
- 512GB: 46,900 บาท
- iPhone 16 Pro (6.3 นิ้ว)
สี: ไทเทเนียมดำ, ไทเทเนียมขาว, ไทเทเนียมธรรมชาติ, ไทเทเนียมทะเลทราย
- 128GB: 39,900 บาท
- 256GB: 43,900 บาท
- 512GB: 51,900 บาท
- 1TB: 59,900 บาท
- iPhone 16 Pro Max (6.9 นิ้ว)
สี: ไทเทเนียมดำ, ไทเทเนียมขาว, ไทเทเนียมธรรมชาติ, ไทเทเนียมทะเลทราย
- 256GB: 48,900 บาท
- 512GB: 56,900 บาท
- 1TB: 64,900 บาท
ทั้งนี้ Apple ยังมีตัวเลือกสีใหม่ ๆ ที่สดใสสำหรับรุ่นมาตรฐาน และสีที่ดูหรูหราสำหรับรุ่น Pro เพื่อตอบโจทย์สไตล์และความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้อีกด้วย
ตารางเทียบสเปค iPhone 16 vs 15
เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือกซื้อหรืออัปเกรดเป็น iPhone รุ่นใหม่ เราได้รวบรวมข้อมูลสำคัญของ
iPhone 16 และ
iPhone 15 มาไว้ในตารางเปรียบเทียบอย่างละเอียดมาให้แล้ว
คุณสมบัติ |
iPhone 15 |
iPhone 16 |
ชิป |
A17 (5nm) |
A18 (3nm) |
RAM |
6GB |
8GB |
Wi-Fi |
Wi-Fi 6 |
Wi-Fi 7 |
กล้องหลัก |
แบบสี่เหลี่ยม |
แบบแนวตั้ง |
แบตเตอรี่ |
3,349 mAh |
3,561 mAh |
ชาร์จไร้สาย |
MagSafe 15W |
MagSafe 25W |
AI |
พื้นฐาน |
Apple Intelligence |
หน้าจอ |
6.1" / 6.7" |
6.1" / 6.7" / 6.3" / 6.9" |
ความสว่างหน้าจอ |
1,600 นิต |
2,000 นิต |
กันน้ำ |
IP68 |
IP68 (ลึกขึ้น) |
สรุปการเปรียบเทียบ
1.ชิปประมวลผล: iPhone 16 ใช้ชิป
A18 ขนาด
3 นาโนเมตรที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า
A17 ใน
iPhone 15 ทั้งด้านการประมวลผลและการประหยัดพลังงาน
2.RAM: ไอโฟนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นเป็น
8GB ทำให้
iPhone 16 รองรับการทำงานหลายแอพพร้อมกันได้ดียิ่งขึ้น
3.การเชื่อมต่อ: iPhone 16 รองรับ
Wi-Fi 7 ที่เร็วกว่าและมีความเสถียรมากขึ้น
4.ระบบกล้อง: iPhone 16 เปลี่ยนดีไซน์กล้องหลักเป็นแนวตั้ง ช่วยเรื่องดีไซน์และประสิทธิภาพการถ่ายภาพที่ดียิ่งขึ้น
5.แบตเตอรี่และการชาร์จ: iPhone 16 มีแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นและชาร์จเร็วขึ้น รองรับ
MagSafe ที่กำลังไฟสูงขึ้น
6.จอแสดงผล: iPhone 16 มาพร้อมหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นในบางรุ่นและความสว่างสูงสุดถึง
2,000 นิต ทำให้การใช้งานกลางแจ้งทำได้ดียิ่งขึ้น
7.AI: iPhone 16 มีระบบ
AI อัจฉริยะอย่าง
Apple Intelligence ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการใช้งานแบบเฉพาะบุคคล
8.การกันน้ำ: ทั้งสองรุ่นมีการกันน้ำระดับ
IP68 แต่
iPhone 16 สามารถกันน้ำได้ในความลึกที่มากกว่า
จากการเปรียบเทียบนี้
iPhone 16 มีความก้าวหน้ามากกว่า
iPhone 15 ในหลายๆ ด้าน หากคุณต้องการสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น การอัปเกรดเป็น
iPhone 16 ก็ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าเลยทีเดียว
iPhone 16 และ 15 รุ่นไหนเหมาะกับใคร
การตัดสินใจเลือกซื้อ iPhone รุ่นไหนขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานเฉพาะบุคคล วันนี้เรามาวิเคราะห์กันว่า iPhone 15 และ iPhone 16 รุ่นไหนเหมาะกับใคร
iPhone 15: เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพดีในราคาที่ถูกลง โดยไม่จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีล่าสุดหรือฟีเจอร์ที่ทันสมัยที่สุด
- ข้อดี: ราคาที่ต่ำกว่า iPhone 16 แต่ยังมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม เช่น ชิป A17 และกล้องที่ทำงานได้ดีในระดับหนึ่ง
iPhone 16: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและเต็มไปด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ
- ข้อดี: มีชิป A18, RAM 8GB, แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น, ฟีเจอร์ Apple Intelligence และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 ที่เร็วขึ้น
iPhone 16 Pro: เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดโดยเฉพาะในด้านการถ่ายภาพและการทำงานระดับมืออาชีพ
- ข้อดี: หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น, RAM มากขึ้น, ระบบกล้องที่ดีขึ้นและปรับปรุงฟีเจอร์ ProMotion ที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการการใช้งานในระดับมืออาชีพ
iPhone 16 Pro Max: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหน้าจอขนาดใหญ่ที่สุดและความสามารถด้านกล้องที่ดีที่สุด พร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน
- ข้อดี: ขนาดหน้าจอ 6.9 นิ้ว, แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น และระบบกล้องที่ดีที่สุดใน iPhone ทั้งหมด
ทั้งนี้หากคุณต้องการประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมและฟีเจอร์ทันสมัยที่สุด iPhone 16 อาจเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คุณได้ดีที่สุด แต่ถ้าคุณต้องการสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพดีในราคาที่ประหยัดกว่า iPhone 15 ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าที่น่าสนใจเช่นกัน
สำหรับผู้ที่สนใจ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ที่มาพร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัยและดีไซน์ที่โดดเด่น อย่าพลาดกับโปรโมชัน iPhone 16 สุดพิเศษจากบัตรเครดิตกรุงศรีที่มอบสิทธิประโยชน์ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งส่วนลดพิเศษ ผ่อน 0% และรับเครดิตเงินคืนเมื่อซื้อ iPhone 16 Pro หรือ iPhone 16 Pro Max และหากใครที่สนใจสมัครบัตรเครดิต กรุงศรีสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย
https://www.krungsricard.com/th/Product
https://www.krungsricard.com/th/Promotion/iPhone16
แหล่งที่มาข้อมูล
Apple - iPhone 16 และ iPhone 16 Plus
Apple - iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max
Apple - iPhone 15 และ iPhone 15 Plus - ข้อมูลทางเทคนิค