ไขข้อสงสัย ประกันชีวิตแบบไหน ใช้ลดหย่อนภาษีได้เท่าไรบ้าง?

เข้าสู่โค้งสุดท้ายปลายปีแบบนี้ เป็นช่วงที่หลายคนกำลังคำนวณลดหย่อนภาษี นำรายการค่าใช้จ่ายต่างๆ มาวางแผนหักลด ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยประกันสังคม ค่าสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ค่าเลี้ยงดูพ่อแม่ ดอกเบี้ยกู้ซื้อ หรือ สร้างบ้าน ค่าเลี้ยงดูลูก และอื่นๆ อีกมากมาย วันนี้เราเลยจะมาแนะนำอีกหนึ่งรายการที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ นั่นก็คือการทำประกันชีวิต ซึ่งก็มีให้เลือกหลายแบบ ใครยังไม่รู้จะเลือกแบบไหนดีมาดูกันเลย
 
ประกันชีวิตที่สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้มี 2 แบบ

ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life)
ประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิตยาวนานตลอดอายุผู้เอาประกัน เพื่อเป็นมรดกให้คนข้างหลัง เบี้ยประกันไม่แพง ได้ความคุ้มครองยาวนาน ซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ตลอดอายุสัญญา
 
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term)
ประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิตในระยะเวลาสั้นๆ ที่กำหนด เช่น 5 ปี 10 ปี 20 ปี โดยจะจ่ายเงินเมื่อผู้ทำประกันเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่คุ้มครองเท่านั้น สามารถเลือกระยะเวลาจ่ายค่าเบี้ยประกัน และระยะเวลาที่ต้องการรับความคุ้มครองได้ แต่หากมีชีวิตอยู่จนครบสัญญา จะไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ


 

ประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิต และยังเป็นเงินออมได้อีกด้วย โดยจะได้รับเงินตามจำนวนที่ระบุ เมื่อเสียชีวิตภายในระยะเวลาเอาประกัน หรือ เมื่อมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญา
 

ประกันที่ทั้งคุ้มครองชีวิต และควบรวมการลงทุนในกองทุนรวม โดยเบี้ยประกันจะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ความคุ้มครองตามที่กรมธรรม์ประกันชีวิตที่กำหนด ค่าใช้จ่ายตามกรมธรรม์ และจัดสรรเข้าไปลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งสามารถกำหนดระยะเวลาชำระเบี้ย ระยะเวลาความคุ้มครอง และทุนประกันชีวิตได้ แต่จะไม่การันตีผลตอบแทน
 

ประกันชีวิตแบบทั่วไป สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง ซึ่งจะต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป ต้องทำกับบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทย และหากได้รับเงินหรือผลประโยชน์จากประกันในระหว่างอายุกรมธรรม์ จะต้องได้ไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันชีวิตรายปี จึงจะสามารถลดหย่อนภาษีได้
 

ประกันชีวิตแบบบำนาญคือ ประกันชีวิตที่ช่วยให้มีรายได้หลังเกษียณ โดยจะคืนผลประโยชน์กลับคืนมาทุกปี เมื่ออายุ 55 - 60 ปี จนครบกำหนดสัญญา ซึ่งก็เป็นเหมือนการออมเงินไว้เพื่อการันตีว่าบั้นปลายชีวิตจะมีเงินใช้โดยไม่ต้องกังวล
แต่ถ้าหากเกิดกรณีเสียชีวิตก่อนที่จะได้รับคืนผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ จะได้รับเงินเวนคืนเบี้ยประกันที่จ่ายไป หรือถ้าหากเสียชีวิตหลังช่วงเกษียณไปแล้วแต่ยังไม่ครบกำหนดสัญญา จะได้รับเงินชดเชยเป็นมูลค่าของบำนาญ คำนวณตามตารางของแต่ละกรมธรรม์

ประกันชีวิตแบบบำนาญ สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง โดยต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ต้องทำกับบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทย ใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15% ของรายได้ทั้งปี และเมื่อรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เงินที่ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และเงินสะสมเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
 
การวางแผนทำประกันชีวิตเตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งที่ดี นอกจากจะได้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีแล้ว จุดประสงค์หลักที่แท้จริงคือการช่วยคุ้มครองชีวิต เป็นหลักประกันในอนาคตได้ แน่นอนว่าคงไม่มีใครซื้อแล้วอยากใช้เร็วๆ เราจึงควรลดความเสี่ยงด้วยการดูแลตัวเองให้ดี เช่น การกินอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การตรวจร่างกายเป็นประจำ เป็นต้น ซึ่งบัตรเครดิต กรุงศรี ให้ทุกคนดูแลตัวเองได้แบบสุดคุ้ม เมื่อชำระค่าเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรฯ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
 
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

 
ขอบคุณที่มาจาก: bit.ly/3xwoBli, bit.ly/3G0Qq8B, bit.ly/3D2QG50, bit.ly/3rr2QSS