iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ยังสร้างมาเพื่อระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลที่ใช้งานง่ายอย่าง Apple Intelligence ที่เข้าใจบริบทเฉพาะตัวของผู้ใช้ จึงสามารถนำเสนอสิ่งดีๆ ที่ชาญฉลาดซึ่งมีประโยชน์และเกี่ยวข้องมากที่สุดโดยที่ยังคงปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยทั้งสองรุ่นมาใน 4 สีสวยงาม ได้แก่ ได้แก่ ไทเทเนียมดำ ไทเทเนียมธรรมชาติ ไทเทเนียมขาว และไทเทเนียมทะเลทราย ผู้สนใจสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 กันยายน และจะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 20 กันยายน
"iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max เป็น iPhone ที่ล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เราเคยสร้างมาโดยมีขุมพลังเป็นชิป A18 Pro ที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น และสร้างมาเพื่อ Apple Intelligence" Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว "ลูกค้าที่ต้องการ iPhone ที่ดีที่สุดจะสามารถใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าครั้งสำคัญในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นจอภาพขนาดใหญ่ขึ้น และระบบกล้องที่ล้ำยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับการถ่ายทำผลงานชิ้นเอกในแบบ Dolby Vision ระดับ 4K ที่ 120 fps ทั้งยังสามารถเก็บบันทึกความทรงจำได้ง่ายโดยใช้ตัวควบคุมกล้อง ทั้งหมดนี้โดยที่แบตเตอรี่ยังคงใช้งานได้ยาวนานน่าทึ่ง"
ผลิตภัณฑ์ตระกูล Pro ใหม่โดดเด่นด้วยขอบจอที่บางที่สุดในบรรดาผลิตภัณฑ์ Apple และมาพร้อมจอภาพที่ใหญ่ขึ้น นั่นคือ 6.3 นิ้ว สำหรับ iPhone 16 Pro และ 6.9 นิ้ว สำหรับ iPhone 16 Pro Max ซึ่งถือเป็นจอภาพที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone1 จอภาพ Super Retina XDR ที่สวยสดงดงามพร้อมด้วยเทคโนโลยีการแสดงผลแบบติดตลอดและ ProMotion ช่วยให้ผู้ใช้ทำอะไรๆ ได้มากขึ้น และทั้งสองรุ่นยังมีความทนทานในระดับชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมด้วยดีไซน์ไทเทเนียมที่แข็งแรงและน้ำหนักเบา รวมถึง Ceramic Shield เจเนอเรชั่นล่าสุดที่มีการผสมสูตรอันล้ำสมัย จึงมีความแข็งแกร่งกว่ากระจกไหนๆ บนสมาร์ทโฟนถึง 2 เท่า ในขณะที่สถาปัตยกรรมเชิงกลใหม่ช่วยให้การกระจายความร้อนดีขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นสูงสุด 20% เพื่อประสิทธิภาพต่อเนื่องที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับดีไซน์ใหม่ภายในและการจัดการพลังงานที่ล้ำสมัยของ iOS 18 ด้วยแล้ว แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นจึงสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และใช้งานได้นานขึ้นแบบก้าวกระโดดครั้งใหญ่
ตัวควบคุมกล้อง (Camera Control) ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการผสมผสานฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้ระบบกล้องระดับโปรมีความอเนกประสงค์มากยิ่งขึ้น ด้วยวิธีใหม่สุดล้ำในการเปิดกล้อง ถ่ายภาพ และเริ่มการบันทึกวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว ตัวสวิตช์มีการขยับขึ้นลงของปุ่มเพื่อให้ประสบการณ์แบบการคลิก พร้อมด้วยเซ็นเซอร์แรงกดความแม่นยำสูงที่ทำให้สามารถกดเบาๆ ได้ และเซ็นเซอร์แบบคาปาซิทีฟที่ทำให้โต้ตอบด้วยการสัมผัสได้ ในขณะที่ส่วนแสดงภาพตัวอย่างของกล้องแบบใหม่จะช่วยผู้ใช้จัดเฟรมภาพและปรับตัวเลือกในการควบคุมอื่นๆ อย่างการซูม ค่าแสง หรือมิติความชัดลึก เพื่อจัดองค์ประกอบภาพหรือวิดีโอให้ออกมาสวยงามน่าทึ่งโดยการเลื่อนนิ้วไปบนตัวควบคุมกล้อง และภายในปีนี้ ตัวควบคุมกล้องจะได้รับการอัปเดตให้สามารถทำงานเป็นชัตเตอร์แบบสองจังหวะเพื่อล็อคโฟกัสและค่าแสงที่ตัวแบบโดยอัตโนมัติเมื่อกดเบาๆ ช่วยให้ผู้ใช้จัดเฟรมภาพใหม่ได้โดยที่ตัวแบบไม่หลุดโฟกัส นอกจากนี้นักพัฒนายังสามารถนำตัวควบคุมกล้องมาอยู่ในแอปของตนเองได้ด้วย เช่น Kino ซึ่งให้ผู้ใช้ปรับไวท์บาลานซ์และตั้งจุดโฟกัสได้ รวมถึงการตั้งจุดโฟกัสที่ความลึกหลายๆ ระยะในฉากนั้น
ตัวควบคุมกล้องยังปลดล็อคระบบอัจฉริยะด้านภาพที่จะช่วยผู้ใช้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุและสถานที่ต่างๆ ได้รวดเร็วยิ่งกว่าที่เคย โดยในประเทศและภูมิภาคที่รองรับ Apple Intelligence นั้น ผู้ใช้จะสามารถกดตัวควบคุมกล้องค้างไว้เพื่อเรียกดูเวลาทำการหรือคะแนนของร้านอาหารที่เดินผ่าน เพิ่มกิจกรรมจากใบปลิวลงในปฏิทิน ระบุสายพันธุ์ของสุนัขอย่างรวดเร็ว และอีกมากมาย และตัวควบคุมกล้องยังทำหน้าที่เป็นทางเชื่อมเข้าสู่เครื่องมือของบริษัทอื่นที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อย่างเวลาที่ผู้ใช้ต้องการค้นหาด้วย Google เพื่อหาว่าจะซื้อของที่ต้องการได้จากที่ไหน หรือต้องการใช้ประโยชน์จากทักษะการแก้ปัญหาของ ChatGPT โดยที่ผู้ใช้ยังคงควบคุมได้ว่าจะใช้เครื่องมือของบริษัทอื่นเมื่อใดและแชร์ข้อมูลอะไรบ้าง
กล้องที่ทั่วโลกต่างชื่นชอบมาวันนี้ทรงพลังยิ่งขึ้นไปอีกเมื่ออยู่บน iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ระบบกล้องที่ได้รับการอัปเกรดเป็นกล้อง Fusion 48MP ใหม่พร้อมด้วยเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel ที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นขับเคลื่อนด้วยขุมพลังอย่างชิป A18 Pro รวมถึงอินเทอร์เฟซ Apple Camera ที่ปลดล็อคการถ่ายวิดีโอ Dolby Vision ระดับ 4K ที่ 120 fps ซึ่งถือเป็นคู่ความละเอียดและอัตราเฟรมที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone และถือเป็นครั้งแรกของสมาร์ทโฟนด้วย โดยเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel สามารถอ่านข้อมูลได้เร็วขึ้น 2 เท่า ทำให้ชัตเตอร์ไม่มีความหน่วงเลยเมื่อถ่ายภาพ 48MP ในแบบ ProRaw หรือ HEIF นอกจากนี้กล้องอัลตร้าไวด์ 48MP ใหม่ยังใช้เซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel ที่มีออโต้โฟกัส เพื่อให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพ ProRAW และ HEIF 48MP ที่มีความละเอียดสูงขึ้นได้เมื่อถ่ายภาพในมุมกว้างขึ้นที่มีการจัดเฟรมในแบบแปลกตา หรือใช้การถ่ายภาพมาโครเพื่อเข้าไปใกล้ๆ ตัวแบบ และวันนี้กล้องเทเลโฟโต้ 5 เท่าใหม่ยังมาอยู่ทั้งบน iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับภาพจังหวะแอ็คชั่นได้จากระยะที่ไกลขึ้น ไม่ว่าจะเลือกเป็นรุ่นไหน ยิ่งไปกว่านั้น iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ยังสามารถถ่ายภาพเชิงมิติพื้นที่ได้แล้วนอกเหนือจากวิดีโอ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ย้อนกลับมาดูความทรงจำในแบบที่มีมิติความชัดลึกบน Apple Vision Pro ได้
ผู้ใช้สามารถบันทึกในโหมดสโลว์โมชั่นหรือวิดีโอระดับ 4K ที่ 120 fps แล้วปรับความเร็วในการเล่นหลังจากบันทึกแล้วในแอปรูปภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นที่ความเร็วหนึ่งในสี่ ตัวเลือกใหม่ที่ความเร็วครึ่งเดียวเพื่อเอฟเฟ็กต์ในแบบชวนฝัน และตัวเลือกความเร็วหนึ่งในห้าที่จะทำให้วิดีโอกลายเป็น 24 fps ซึ่งเมื่อรวมกับโปรเซสเซอร์ประมวลผลภาพ (ISP) ใหม่ของชิป A18 Pro แล้ว ผู้ใช้จึงสามารถปรับแก้สีด้วยคุณภาพระดับภาพยนตร์แบบเฟรมต่อเฟรมสำหรับวิดีโอ Dolby Vision ระดับ 4K ที่ 120 fps และผู้ใช้ยังสามารถบันทึก ProRes และ Log ระดับ 4K ที่ 120 fps ลงบนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกได้โดยตรงเพื่อเวิร์กโฟลว์ระดับโปรที่มีประสิทธิภาพ
รุ่น Pro ทั้งสองรุ่นมาพร้อมไมโครโฟนใหม่คุณภาพระดับสตูดิโอ 4 ตัวที่บันทึกเสียงได้อย่างสมจริง และวันนี้ยังสามารถบันทึกวิดีโอพร้อมเสียงในระบบเสียงตามตำแหน่งได้แล้ว เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับประสบการณ์การฟังที่เต็มอิ่มสมจริงด้วย AirPods, Apple Vision Pro หรือระบบเสียงรอบทิศทาง นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ตระกูล iPhone 16 Pro ยังเพิ่มวิธีใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ในการตัดต่อเสียงของวิดีโอด้วยการผสมเสียงหรือ Audio Mix ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบอัจฉริยะสุดล้ำและการเรียนรู้ของระบบ (ML) โดยคุณสมบัติการผสมเสียงให้ผู้ใช้ปรับเสียงหลังจากบันทึกไปแล้วให้โฟกัสไปที่เสียงของบุคคลในกล้อง ทำให้เสียงฟังดูเหมือนกับบันทึกในสตูดิโอระดับมืออาชีพ หรือวางตำแหน่งของแทร็คเสียงพูดให้อยู่ด้านหน้าและวางตำแหน่งของเสียงในสภาพแวดล้อมให้เป็นเสียงรอบทิศทาง พร้อมด้วยการลดเสียงลมที่ใช้อัลกอริทึม ML อันทรงพลังในการลดเสียงที่ไม่พึงประสงค์เพื่อให้เสียงมีคุณภาพดีขึ้น
คุณสมบัติรูปแบบภาพถ่ายหรือ Photographic Styles เจเนอเรชั่นถัดไปจะช่วยผู้ใช้ถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์และปรับแต่งภาพถ่ายโดยการปรับสีสัน ไฮไลท์ และเงามืดในแบบเรียลไทม์ และรูปแบบต่างๆ ยังมีความเข้าใจในโทนสีผิวจริงที่อยู่ใต้ผิวหนังมากขึ้นด้วย ผู้ใช้จึงสามารถปรับแต่งได้ว่าอยากให้โทนสีผิวในภาพออกมาเป็นอย่างไร โดยที่การปรับแต่งนั้นจะมีผลเฉพาะกับบางสีของรูปแบบที่เลือกไว้ ซึ่งแตกต่างจากฟิลเตอร์ที่มักใช้แนวทางแบบครอบจักรวาลโดยการเพิ่มสีให้กับทั้งฉาก นอกจากนี้รูปแบบที่มีให้เลือกหลากหลายยังเพิ่มทางเลือกในการสร้างสรรค์ให้ผู้ใช้ปรับแต่งภาพถ่ายได้อย่างสวยเก๋มีสไตล์ และยังปรับแต่งแต่ละรูปแบบเพิ่มเติมได้อีกโดยใช้แพดควบคุมใหม่และแถบเลื่อนปรับความเข้มที่ใช้ง่ายเพื่อปรับโทนและสีไปพร้อมกัน และยังสามารถเรนเดอร์การปรับแต่งเหล่านี้ได้ขณะดูตัวอย่างแบบสดๆ นำไปใช้หลังจากถ่ายภาพไปแล้ว หรือจะเปลี่ยนกลับในภายหลังก็ได้
ชิป A18 Pro ได้รับการออกแบบมาให้มีพลังการประมวลผลชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมเพื่ออัดฉีดความแรงให้กับการเล่นเกมที่เน้นกราฟิกหนักๆ คุณสมบัติด้านการประมวลผลภาพถ่ายเชิงคำนวณ และ Apple Intelligence ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของประสิทธิภาพระดับโปร ชิป A18 Pro สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรรุ่นที่ 2 และมาพร้อมสถาปัตยกรรมใหม่ที่มีทรานซิสเตอร์เล็กลงและเร็วขึ้น จึงประหยัดพลังงานอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่วน Neural Engine แบบ 16-core ใหม่ก็เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานยิ่งขึ้นด้วยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า จึงมีประสิทธิภาพที่โดดเด่นสำหรับการทำงานบนอุปกรณ์ ในขณะที่แบนด์วิดท์ของหน่วยความจำรวมทั้งระบบเพิ่มขึ้น 17% ซึ่งสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone เพื่อรองรับ Neural Engine และสนับสนุนการทำงานของ GPU แบบ 6-core ซึ่งเร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าสูงสุด 20% จึงสามารถเนรมิตภาพที่สวยสดงดงามขณะเล่นเกม นอกจากนี้เรย์เทรซซิ่งที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ยังเร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า ทำให้แหล่งกำเนิดแสงและภาพสะท้อนมีความสมจริงมากขึ้น และโหมดเกมใน iOS 18 ยังช่วยให้อัตราเฟรมมีความสม่ำเสมอยิ่งขึ้นด้วยโดยที่ AirPods, อุปกรณ์ควบคุมเกมแบบไร้สาย และอุปกรณ์เสริมแบบไร้สายอื่นๆ ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วฉับไว CPU แบบ 6-core ใหม่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟน โดยมีคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ที่สามารถทำงานกับเวิร์กโหลดในระดับเดียวกันได้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า 15% แต่ใช้พลังงานน้อยลง 20% พร้อมด้วยตัวเร่งความเร็ว ML เจเนอเรชั่นถัดไปที่ปรับแต่งมาอย่างลงตัวเพื่อ Apple Intelligence และประหยัดพลังงานโดยการช่วยจัดการกับการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูง อัตราการส่งผ่านข้อมูลสูง และมีความหน่วงต่ำบน CPU โดยไม่ต้องพึ่ง Neural Engine
ชิป A18 Pro เป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีการแสดงผลแบบติดตลอดและ ProMotion ที่จะมอบประสบการณ์การรับชมที่เยี่ยมยอดบน iPhone รวมถึงความเร็ว USB 3 ที่สูงขึ้นและการบันทึกวิดีโอ ProRes พร้อมด้วย ISP และตัวเข้ารหัสวิดีโอใหม่ที่ประมวลผลข้อมูลได้มากขึ้น 2 เท่า จึงสามารถเข้ารหัสวิดีโอและจัดการเวิร์กโฟลว์ระดับโปรได้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก
ผลิตภัณฑ์ตระกูล iPhone 16 Pro มาพร้อมวิธีการใหม่ๆ สุดล้ำที่จะช่วยให้ผู้ใช้ต่อติดกับคนอื่นๆ อยู่เสมอ ทั้งยังมีความสามารถด้านความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้สบายใจหายห่วง คุณสมบัติข้อความผ่านดาวเทียมขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่เหนือชั้นเช่นเดียวกับ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับดาวเทียมที่อยู่ใกล้ที่สุดเพื่อส่งและรับข้อความ อิโมจิ รวมถึง Tapback ผ่าน iMessage และ SMS ได้ในขณะที่อยู่ในบริเวณที่ระบบเซลลูลาร์และ Wi-Fi ไม่ครอบคลุม2 ข้อความผ่านดาวเทียมใน iOS 18 ได้รับการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง นอกจากนี้ด้วย iOS 18 ใหม่ คุณสมบัติวิดีโอสดสำหรับ SOS ฉุกเฉินยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์วิดีโอสดหรือรูปภาพกับศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินที่รับหน้าที่ในระหว่างการโทรฉุกเฉิน3 และภายในปีนี้ บริการช่วยเหลือบนท้องถนนผ่านดาวเทียมจะขยายการให้บริการไปยังพื้นที่อื่นๆ นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร โดยบริการนี้จะเชื่อมต่อผู้ใช้กับผู้ให้บริการช่วยเหลือบนท้องถนนในกรณีที่ผู้ใช้ประสบปัญหาเรื่องรถยนต์ในขณะที่อยู่ในพื้นที่อับสัญญาณ
สร้างมาเพื่อ Apple Intelligence
ผลิตภัณฑ์ตระกูล iPhone 16 สร้างมาเพื่อ Apple Intelligence ทั้งยังสามารถดึงขุมพลังของ Apple Silicon และโมเดลเจเนอเรทีฟที่สร้างขึ้นโดย Apple มาใช้เพื่อทำความเข้าใจและสร้างภาษากับรูปภาพ ทำสิ่งต่างๆ ระหว่างแอป รวมถึงดึงบริบทเฉพาะตัวของผู้ใช้ออกมาเพื่อช่วยให้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันกลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Apple Intelligence ยังช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ด้วย Private Cloud Compute ซึ่งวิธีการสุดล้ำนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับและขยายขีดความสามารถด้านการคำนวณ โดยรองรับได้ทั้งการประมวลผลบนอุปกรณ์และโมเดลขนาดใหญ่ขึ้นบนเซิร์ฟเวอร์ซึ่งทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ Apple Silicon โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเป็นความก้าวหน้าที่เหนือชั้นในด้านความเป็นส่วนตัวในปัญญาประดิษฐ์
Apple Intelligence ปลดล็อควิธีการใหม่ๆ ให้ผู้ใช้ปรับปรุงการเขียนของตัวเองด้วยเครื่องมือการเขียนที่ครอบคลุมทั่วทั้งระบบ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปเนื้อหาของข้อความได้ ส่วนการสื่อสารและการแสดงออกถึงความเป็นตัวเองก็กลายเป็นเรื่องที่สนุกยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการสร้าง Genmoji ที่ไม่ซ้ำใครและ Image Playground ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างรูปภาพสนุกๆ ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ Apple Intelligence ยังช่วยสรุปการแจ้งเตือน รวมถึงแสดงข้อความที่สำคัญต่อเวลาด้วยคุณสมบัติข้อความที่มีความสำคัญในแอปเมล ผู้ใช้สามารถบันทึก ถอดข้อความ และสรุปเนื้อหาจากเสียงได้ในแอปโน้ตและโทรศัพท์ โดยเมื่อมีการเริ่มบันทึกเสียงในแอปโทรศัพท์ในขณะที่ผู้ใช้คุยโทรศัพท์ ผู้ที่อยู่ในสายจะได้รับการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติ และเมื่อวางสาย Apple Intelligence ก็จะสรุปเนื้อหาเพื่อช่วยทบทวนประเด็นสำคัญ
Siri มีความเป็นธรรมชาติ ยืดหยุ่น และผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับประสบการณ์ทั้งระบบมากขึ้นด้วยดีไซน์แบบใหม่เอี่ยม และด้วยความสามารถในการเข้าใจภาษาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น Siri จึงตามทันถึงแม้ผู้ใช้จะพูดตะกุกตะกัก และสามารถรักษาบริบทของคำขอก่อนหน้าแล้วนำไปปรับใช้คำขอถัดไปได้ และผู้ใช้สามารถพิมพ์โต้ตอบกับ Siri ได้ทุกเมื่อ ทั้งยังสลับไปมาระหว่างเสียงและข้อความได้อย่างลื่นไหลเพื่อเพิ่มความรวดเร็วให้กับสิ่งที่ทำเป็นประจำทุกวัน นอกจากนี้ Siri ยังมีความรอบรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มากขึ้น จึงสามารถตอบหลายพันคำถามเกี่ยวกับคุณสมบัติของ iPhone และผลิตภัณฑ์ Apple อื่นๆ ส่วนการรับรู้สิ่งที่อยู่บนหน้าจอก็ช่วยให้ Siri เข้าใจและทำหลายสิ่งหลายอย่างกับคอนเทนต์ของผู้ใช้ได้ ทั้งยังสามารถทำสิ่งใหม่ๆ ได้หลายร้อยอย่างทั้งในและระหว่างแอปของ Apple และแอปของบริษัทอื่น และในขณะที่ผู้ใช้กำลังใช้คุณสมบัติของ iOS 18 อย่าง Siri และเครื่องมือการเขียน ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึง ChatGPT จาก OpenAI ได้ง่ายขึ้นด้วย
iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดย Apple ให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานหมุนเวียนในการผลิตเป็นหลัก และ Apple ยังลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมทั่วโลกเพื่อช่วยชดเชยพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการชาร์จผลิตภัณฑ์ Apple ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ตระกูล iPhone 16 โดยเป็นส่วนหนึ่งใน Apple 2030 ซึ่งเป็นเป้าหมายอันมุ่งมั่นของบริษัทในการทำให้คาร์บอนฟุตพริ้นต์ทั้งหมดของเรามีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในทศวรรษนี้ และในวันนี้โรงงานของ Apple ทั้งหมดใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% ซึ่งรวมถึงศูนย์ข้อมูลที่ขับเคลื่อน Apple Intelligence ด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว บริษัทยังออกแบบผลิตภัณฑ์โดยใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Apple 2030 โดย iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ใช้วัสดุรีไซเคิลโดยรวมมากกว่า 25% ซึ่งรวมถึงการใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ในเฟรมที่เป็นโครงสร้างภายใน และการใช้โลหะรีไซเคิล 80% หรือมากกว่าในส่วนประกอบหลายส่วน นอกจากนี้ แบตเตอรี่ยังทำจากโคบอลต์รีไซเคิล 100% และเป็นครั้งแรกสำหรับ iPhone ที่มีการใช้ลิเทียมรีไซเคิลมากกว่า 95%4 ผลิตภัณฑ์ในตระกูล iPhone 16 Pro ยังเป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงด้านการประหยัดพลังงาน ทั้งยังปลอดสารปรอทและ PVC ส่วนบรรจุภัณฑ์ก็ใช้เยื่อไม้เป็นหลักทั้งหมด ซึ่งช่วยให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายในการขจัดพลาสติกออกจากบรรจุภัณฑ์ภายในปีหน้ามากขึ้น
ราคาและการวางจำหน่าย
สำหรับผู้ที่สนใจ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ที่มาพร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัยและดีไซน์ที่โดดเด่น อย่าพลาดกับโปรโมชันพิเศษจากบัตรเครดิตกรุงศรีที่มอบสิทธิประโยชน์ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งส่วนลดพิเศษ ผ่อน 0% และรับเครดิตเงินคืนเมื่อซื้อ iPhone 16 Pro หรือ iPhone 16 Pro Max ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชั่น iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max รอติดตามกันได้เลย!
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด
แหล่งที่มาข้อมูล
Apple เปิดตัว iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max