เป้าหมายของนักเทรดหรือนักลงทุนแทบทุกคนหนีไม่พ้นการทำกำไรให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ และหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักเทรดให้ประสบความสำเร็จนั่นคือ Mindset ที่ถูกต้อง
ต่อให้วันนี้เงินลงทุนของคุณยังมีน้อย แต่ถ้าลงมือเทรดด้วยหลักคิดที่ใช่ คุณก็จะสามารถหาทางทำให้เงินก้อนเล็กให้กลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้ กลับกันต่อให้วันนี้คุณมีเงินก้อนใหญ่ให้เทรดได้เต็มที่ แต่ถ้า Mindset คุณผิดเพี้ยน เงินลงทุนของคุณก็หายจะหายวับได้ภายในเวลาไม่นาน
และต่อไปนี้คือ 5 ข้อห้ามทำ เทรดเดอร์มือใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จ ควรหลีกเลี่ยงการคิดแบบนี้
ทบทวนกันก่อนว่าเวลามองราคาหุ้นควรมองเป็นภาพรวมธุรกิจระยะยาว หรือมองกันที่แนวโน้มราคา มากกว่ามองราคาหุ้นกันเป็นวันๆ การเทรดแบบวันต่อวันอาจทำให้คุณเผลอซื้อหุ้นแพงกว่าที่ควรจะเป็น ยิ่งถ้าคุณเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ที่ประสบการณ์ยังน้อย เวลาถึงจังหวะที่ต้องขาย คุณอาจจะตัดสินใจช้าจนส่งผลให้ขาดทุนก้อนใหญ่ ทั้งที่จริงถ้านั่งทับมืออยู่นิ่งๆ อาจจะไม่ต้องเจ็บตัวขนาดนั้นก็ได้นะ
ทางแก้สำหรับคนที่อดใจไม่ไหวต้องเทรด ถ้าไม่เอาเวลาไปศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุนเพิ่มเติม คุณก็อาจจะแบ่งพอร์ตเล็กๆ เอาไว้เทรดแก้คันมือ ซึ่งในที่สุดคุณก็อาจจะพบว่า ไม่ต้องเทรดทุกวันกำไรเยอะกว่าก็เป็นได้
สำหรับคนเป็นมือใหม่อยากให้ท่องไว้เสมอว่า ต่อให้คนที่แนะนำหุ้นให้คุณมาจะดูน่าเชื่อถือแค่ไหน หรือเสียงหัวใจบอกว่าให้ซื้อตามเซียนไปเรื่อย ๆ ง่ายดี ไม่ต้องคิดเยอะ แต่เราอยากให้คุณมองผลประโยชน์ของตัวเองในระยะยาว มันจะดีกว่ามั้ยถ้าคุณพัฒนาทักษะการเทรดจนสามารถเลือกหุ้นได้ด้วยตัวเองได้ตลอดชีวิต? ถ้าคุณเห็นด้วย คำแนะนำคือทุกครั้งที่ได้ยินใครแนะนำหุ้นดีๆ คุณต้องทำการศึกษา-ประเมินด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจว่าหุ้นที่ได้ดีจริงมั้ย หรือมีปัจจัยบวก ปัจจัยลบ ปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้าง ฯลฯ
ถึงแม้พวกเราทุกคนลงทุนเพราะอยากได้กำไร แต่การตัดสินใจลงทุนใดๆ ด้วยการเห็นแต่คำว่า “กำไร” จนมองข้ามปัจจัยอื่นๆ เป็นสิ่งที่อันตรายมาก เพราะมันอาจทำให้คุณโลกสวยจนลืมใช้เครื่องมืออย่าง Risk/Reward Ratio มาช่วยตัดสินใจว่าโอกาสทำกำไรคุ้มที่จะเข้าไปเสี่ยงหรือเปล่า ตัวอย่างคำนวณง่ายๆ เช่นสมมติคุณมีแผนจะซื้อหุ้นตัวหนึ่งที่ 40 บาท แล้วตั้งใจจะถือจนได้กำไร 10 บาทแล้วจึงขาย แต่ถ้าหุ้นปรับราคาลงมาจะ Cut loss ที่ราคา 25 บาท แบบนี้ RR Ratio จะเท่ากับ 1.5 : 1 ซึ่งแปลว่าผลตอบแทนไม่คุ้มที่จะเข้าไปเสี่ยง
ประโยคนี้ผิดตรงไหน? มาคิดไปพร้อมกันๆ ค่ะ สมมติเงินลงทุนเริ่มต้นของคุณคือ 100 บาท แต่คุณซื้อหุ้นจนขาดทุน 10% ทีนี้คุณก็เลยอยากจะแก้มือ เลยมองหาหุ้นที่จะทำให้ได้กำไรจนเงินทุนคุณกลับมาเท่าเดิม
ถ้าคุณตอบต้องการกำไร 10% นั่นแปลว่าต่อให้ซื้อหุ้นได้กำไรตามที่ตั้งใจ เงินทุนรวมของคุณก็จะเขยิบขึ้นมาอยู่ที่ 99 บาทเท่านั้น เพราะกำไร 10% ที่คุณทำได้ ต้องคิดจากเงินลงทุนที่เหลืออยู่ 90 บาท เพราะฉะนั้นคำตอบที่ถูกต้องคือ คุณจะต้องหาหุ้นที่ทำให้คุณได้กำไรประมาณ 11.12% จะเห็นว่าเวลาจะประเมินโอกาสทำกำไร-ขาดทุน การคำนวณออกมาเป็นตัวเลขให้เห็นชัดๆ ชัวร์สุด
ประโยคอมตะที่เทรดเดอร์บางส่วนใช้ปลอบใจเวลาหุ้นที่ซื้อไว้กำลังติดดอย เราไม่ได้จะมาบอกว่าวิธีคิดนี้ผิดซะทีเดียว เพียงแต่อยากจะเตือนน้องใหม่สายเทรดว่าก่อนจะพูดประโยคนี้ ลองพิจารณาดูก่อนว่าหุ้นที่ถูกอยู่พื้นฐานยังดี อนาคตยังมีแววรุ่งอยู่มั้ย หรือราคาหุ้นยังขึ้นได้อีกจริงหรือเปล่า หรือเราแค่ถือมันไว้เพียงเพราะไม่อยากยอมรับความเป็นจริงว่ากำลังขาดทุน
ถ้าเป็นเหตุผลนี้ อยากให้มองถึงอนาคตภายภาคหน้าว่าการยอม Cut loss ตามแผนตั้งแต่วันนี้ ถึงแม้จะเจ็บปวด แต่ก็เป็นการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยที่เรายังเดินไปต่อได้ ดีกว่าดื้อถือต่อไปจนสุดท้ายกลายเป็นแผลใหญ่หรือถึงขั้นต้องตัดขา แบบนั้นคงไม่ดีแน่ ๆ
ทุก 1,000 พอยต์ = เงินลงทุน 100 บาท*
ขอบคุณที่มาจาก: https://bit.ly/3AHssz6, https://bit.ly/3R6DHqb, https://bit.ly/3Csd2QU, https://bit.ly/3cfJo6G, https://bit.ly/3Kbj5Lr