พูดคุยกับเราได้ที่

0 2646 3555

จ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิต ความสะดวกสำหรับคนยุคใหม่

จ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิต ความสะดวกสำหรับคนยุคใหม่
 
ใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าทางด่วนอย่างไร
 
 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าหน้าที่ของชาวไทยทุกคนต้องจ่ายภาษี เพื่อนำเงินมาพัฒนาประเทศ ซึ่งหากไม่ยื่นแบบภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนดจะต้องโทษปรับ ยิ่งถ้าหลีกเลี่ยง ไม่เสียภาษีด้วยแล้ว ต้องรับโทษตามกฎหมาย

รู้ดังนี้ทุกคนก็ควรยื่นแบบภาษีและจ่ายภาษีกันให้ครบถ้วน แต่ถ้าไม่มีเงินสดพอจ่ายภาษี ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะล่าสุดกรมสรรพากรอนุญาตให้ผ่อนจ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิตได้ ดังนั้นมาดูกันเลยดีกว่าว่าข้อกำหนดในการผ่อนจ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิตมีอะไรบ้าง อ่านจบแล้วรับรองเข้าใจ แม้ยื่นภาษีครั้งแรก!

 

การชำระภาษี คืออะไร
การชำระภาษี คืออะไร

 

การชำระภาษี คืออะไร

ก่อนศึกษาข้อกำหนดการผ่อนจ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิต ก็ควรรู้จักกับความหมาย และรูปแบบของการชำระภาษีกันเป็นอันดับแรก ซึ่งการชำระภาษี คือ เงินที่ประชาชนต้องนำส่งให้แก่ภาครัฐ โดยสามารถแบ่งภาษีได้ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ภาษีทางตรงและภาษีทางอ้อม
 

1. ภาษีทางตรง

เป็นภาษีที่จัดเก็บจากเงินได้ และทรัพย์สิน ตัวอย่างของภาษีทางตรงที่จัดเก็บจากเงินได้ เช่น

  • ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ประชาชนทุกคนต้องยื่นแบบแสดงรายการ ภงด.90 ภงด. 91 หรือ ภงด.94 ในช่วงมกราคม – มีนาคมเป็นประจำทุกปี
  • ภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งเป็นภาษีที่ทางกรมสรรพากรจัดเก็บกับบริษัท หรือห้างหุ้นส่วน ส่วนภาษีทางตรงที่จัดเก็บกับทรัพย์สิน ได้แก่ ภาษีที่ดิน, ภาษีมรดก และภาษีป้าย

โดยขั้นตอนการจ่ายภาษีทางตรง นอกจากจะชำระด้วยเงินสดได้แล้ว ทางกรมสรรพากรยังได้อนุญาตให้ผ่อนจ่ายภาษีด้วยบัตรเครดิต เนื่องจากจำนวนเงินที่ต้องจ่ายภาษีทางตรงสูงกว่าภาษีทางอ้อม บางธุรกิจอาจต้องจ่ายภาษีหลักล้านบาทต่อปี ทำให้ไม่มีเงินสดพอจ่ายชำระในครั้งเดียว และการจ่ายภาษีด้วยบัตรเครดิต ช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมากเพื่อเสียภาษีถึงสำนักงานกรมสรรพากร
 

2. ภาษีทางอ้อม

เป็นภาษีที่เก็บจากการบริโภค อุปโภค และบริการเป็นหลัก หมายความว่ายิ่งกินยิ่งใช้ ยิ่งจ่ายภาษีมาก ตัวอย่างของภาษีทางอ้อมที่เห็นได้ในชีวิตประจำวัน เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT), ภาษีสุรา, ภาษีรถยนต์ และอากรศุลกากร เป็นต้น

 

จ่ายภาษีทางตรงด้วยบัตรเครดิต
จ่ายภาษีทางตรงด้วยบัตรเครดิต

 

ชำระภาษีผ่านช่องทางไหนได้บ้าง

ขั้นตอนการชำระภาษีทำได้หลายช่องทาง ดังนี้

 

1. สำนักงานสรรพากรพื้นที่

การชำระภาษีผ่านสำนักงานสรรพากรพื้นที่มีข้อดี คือ จ่ายภาษีได้ถึง 4 ช่องทาง ได้แก่ 1.จ่ายภาษีด้วยเงินสด 2.จ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิต 3.จ่ายภาษีด้วยเช็ค 4.จ่ายภาษีด้วยธณาณัติ หากคุณไม่ทราบขั้นตอนเกี่ยวกับการกรอกเอกสารเพื่อยื่นแบบภาษี ก็สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรได้โดยตรง และเจ้าหน้าที่จะออกหลักฐานการชำระภาษีให้ทันทีเมื่อการชำระภาษีเสร็จสิ้น

 

2. ผ่านระบบ E-Payment

ข้อดีของการชำระภาษีผ่านระบบ E-Payment คือ สะดวกรวดเร็ว จ่ายภาษีได้ทันที ไม่ต้องทำเรื่องถึงสาขาของกรมสรรพากร เพราะเมื่อยื่นแบบภาษีด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ https://efiling.rd.go.th/rd-efiling-web/login เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถชำระภาษีผ่านระบบ mobile banking ด้วยตนเองได้

 

3. ผ่าน Counter Service

หลังจากยื่นแบบภาษีเงินได้ผ่านเว็บไซต์  https://efiling.rd.go.th/rd-efiling-web/login เรียบร้อยแล้ว ให้คุณปริ้นท์ใบชำระภาษี พร้อมนำบัตรประชาชน ไปยื่นชำระที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ 1.ธนาคารที่ร่วมโครงการยื่นแบบ 2.ร้านค้าเซเว่นอีเลเว่น 3.ไปรษณีย์ไทย 4.Tesco Lotus และ 5.True money


4. จ่ายด้วย ATM

ผู้เสียภาษีสามารถจ่ายภาษีผ่านตู้ ATM ของธนาคารใดก็ได้ทั่วประเทศ ซึ่งธนาคารแต่ละแห่งคิดค่าธรรมเนียมแตกต่างกันออกไป โดยมีตั้งแต่ไม่คิดค่าธรรมเนียม จนไปถึงคิดค่าธรรมเนียมสูงสุด 15 บาท
ในด้านความสะดวกสบาย การจ่ายภาษีผ่านตู้ ATM ถือว่าน้อยกว่าการชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส เพราะคุณต้องกรอกเลขที่บัตรประชาชน หรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรด้วยตนเอง ทำให้มีขั้นตอนการชำระภาษีมากกว่าการจ่ายผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส

 

5. จ่ายภาษีด้วยบัตรเครดิต (Credit Card)

กรมสรรพากรได้พัฒนาโครงการจ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิตร่วมกับธนาคารกรุงศรีด้วย ทำให้มนุษย์เงินเดือน และเจ้าของกิจการ ผ่อนชำระภาษีได้แม้ไม่มีเงินสด ซึ่งผู้มีเงินได้ทุกคนสามารถตรวจสอบหน่วยชำระภาษีที่เข้าร่วมโครงการได้ที่ efiling

 

ธนาคารที่รับผ่อนจ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิต
ธนาคารที่รับผ่อนจ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิต

 

สิ่งที่ควรระวัง สำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนชำระภาษี 

ต้องผ่อนชำระเท่าๆ กัน

การผ่อนจ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิตต้องมียอดชำระขั้นต่ำ 3,000 บาท โดยทางกรมสรรพากรกำหนดให้ผ่อนชำระจำนวน 3 งวด งวดละเท่าๆ กัน หากขาดชำระงวดใดงวดหนึ่งแล้ว คุณจะหมดสิทธิ์ผ่อนชำระภาษี และจ่ายด้วยยอดเต็มแทน พร้อมทั้งเสียค่าปรับเป็นเงินเพิ่มอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินภาษีงวดที่เหลือ

 

ข้อดีของการผ่อนชำระภาษีด้วยบัตรเครดิต

การผ่อนจ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิตนอกจากจะสะดวกสบายกว่าการชำระด้วยเงินสดแล้ว ยังมีข้อดีที่คุณอาจยังไม่รู้มาก่อนดังนี้

1. ช่วยในการบริหารสภาพคล่องทางการเงิน

การจ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิต ช่วยให้คุณไม่ต้องจ่ายเงินสดออกไปทันที ทำให้สามารถนำเงินก้อนมาหมุนจ่าย ค่าจ้างพนักงาน, ค่าเช่า หรือค่าวัตถุดิบ ก่อนได้


2. ผ่อนได้มากกว่าเงื่อนไขที่กรมสรรพกำหนด

ถึงแม้กรมสรรพากรจะอนุญาตให้ผ่อนชำระภาษี แต่ก็ผ่อนชำระได้สูงสุดเพียง 3 งวด ในขณะที่หากจ่ายภาษีด้วยบัตรเครดิต จะผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 10 เดือน


3. ดอกเบี้ยต่ำ

การผ่อนจ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิตนอกจากจะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแล้ว ยังเสียดอกเบี้ยน้อยกว่ากรมสรรพากรโดยตรง ที่จะเสียดอกเบี้ยถึง 1.5% ต่อเดือน

การจ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิต สามารถชำระได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกสาขา, internet credit card, ระบบ E-filling จนไปถึงสาขาของธนาคารที่เข้าร่วมรายการ ทั้งนี้การจ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิตจะไม่ได้แต้ม และเครดิตเงินคืนเหมือนกับการซื้อของทั่วไป ยกเว้นว่าในช่วงนั้นทางธนาคารจะจัดโครงการร่วมกับกรมสรรพากรเพื่อเชิญชวนให้ชาวไทยจ่ายภาษี ดังนั้นควรหมั่นอัปเดตข่าวสารเป็นประจำ จะได้ไม่พลาดกับโครงการประหยัดภาษี

เปิดประสบการณ์ทางการเงินที่ไม่เหมือนใครและสะท้อนความเป็นคุณไปกับบัตรเครดิตกรุงศรี! พร้อมเพลิดเพลินไปกับความสะดวกสบายของการชำระเงินแบบไม่มีค่าธรรมเนียม สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นมากมายจากบัตรเครดิตกรุงศรี ศึกษาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.krungsricard.com/th/Product

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด


แหล่งที่มาข้อมูล



บัตรเครดิต กรุงศรี แพลทินัม