รูดบัตรเครดิตต่างประเทศ มีค่าธรรมเนียมเท่าไหร่
การใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศเป็นทางเลือกที่สะดวกและปลอดภัยแต่หลายคนอาจไม่ทราบว่าการรูดบัตรเครดิตต่างประเทศนั้นมีค่าธรรมเนียมแฝงอยู่ ซึ่งอาจทำให้คุณต้องจ่ายเงินมากกว่าที่คิด แล้วรูดบัตรเครดิตต่างประเทศคิดเรทยังไง? วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมเหล่านี้ พร้อมเปรียบเทียบอัตราค่าธรรมเนียมของบัตรเครดิตแต่ละประเภทกัน
ค่าความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินคืออะไร
ค่าความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสกุลเงิน หรือที่เรียกว่า Foreign Exchange Rate Risk Fee (FX Risk Fee) คือค่าธรรมเนียมที่ธนาคารเรียกเก็บเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อคุณใช้บัตรเครดิตชำระสินค้าหรือบริการในต่างประเทศ
ค่าธรรมเนียมนี้จะถูกคิดเพิ่มจากยอดใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศ หลังจากที่ได้แปลงเป็นเงินบาทแล้ว โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 1-2.5% ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร
สูตรการคำนวณเป็นเงินบาทเวลารูดบัตรเครดิตต่างประเทศ
รูดบัตรเครดิตต่างประเทศคิดเรทยังไง? เมื่อคุณใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ ยอดค่าใช้จ่ายจะถูกคำนวณเป็นเงินบาทตามขั้นตอน ดังนี้
- แปลงยอดเงินจากสกุลเงินต่างประเทศเป็นดอลลาร์สหรัฐ (กรณีที่ไม่ใช่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ)
- แปลงจากดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินบาท โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนของวีซ่าหรือมาสเตอร์การ์ด
- คิดค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน (FX Risk Fee)
- คิดค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินต่างประเทศ (ถ้ามี)
ตัวอย่างการคำนวณ
สมมติว่าคุณซื้อสินค้าในญี่ปุ่นราคา 10,000 เยน โดยใช้บัตรเครดิตที่มี FX Risk Fee 2.5%
- 10,000 เยน = 90 ดอลลาร์สหรัฐ (สมมติอัตราแลกเปลี่ยน 1 USD = 111 JPY)
- 90 ดอลลาร์สหรัฐ = 3,000 บาท (สมมติอัตราแลกเปลี่ยน 1 USD = 33.33 THB)
- ค่า FX Risk Fee: 3,000 x 2.5% = 75 บาท
- ยอดรวมที่ต้องชำระ: 3,000 + 75 = 3,075 บาท
ค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินของธนาคารกรุงศรีฯ (FX Rate Fee)
ธนาคารกรุงศรีอยุธยามีการคิดค่า FX Risk Fee สำหรับการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศในอัตราไม่เกินร้อยละ 2.5 ของยอดค่าใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากการแปลงสกุลเงินดังกล่าวข้างต้น
ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นบาท (DCC Fee)
นอกจาก FX Risk Fee แล้ว ยังมีค่าธรรมเนียมอีกประเภทที่เรียกว่า Dynamic Currency Conversion (DCC) Fee ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อร้านค้าในต่างประเทศเสนอให้คุณชำระเงินเป็นสกุลเงินบาท
DCC Fee มักจะสูงกว่า FX Risk Fee ค่อนข้างมาก โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 3-7% ของยอดใช้จ่าย ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการเลือกชำระเป็นเงินบาทเมื่ออยู่ต่างประเทศ
ตัวอย่างเช่น
สมมติว่าร้านค้าเสนอให้คุณชำระสินค้า 10,000 เยนเป็นเงินบาท โดยคิด DCC Fee 5%
- 10,000 เยน = 3,000 บาท (ร้านค้าแปลงค่าให้ทันที)
- DCC Fee: 3,000 x 5% = 150 บาท
- ยอดรวมที่ต้องชำระ: 3,000 + 150 = 3,150 บาท
ในกรณีนี้ คุณจะต้องจ่าย DCC Fee 150 บาท ซึ่งมากกว่าการชำระเป็นสกุลเงินท้องถิ่นและให้ธนาคารคิด FX Risk Fee
แนะนำบัตรเครดิตจากกรุงศรีที่ยิ่งใช้มีแต่ได้ในต่างประเทศ
ต้องบอกว่าธนาคารกรุงศรีอยุธยามีบัตรเครดิตหลายประเภทที่เหมาะสำหรับการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ แต่ละบัตรมีค่าธรรมเนียมและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน สามารถใช้รูดบัตรเครดิตต่างประเทศ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายเที่ยวที่แตกต่าง ดังนี้
- สิทธิประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว:
- สิทธิ์อัปเกรดชั้นบัตรโดยสารสายการบิน 1 ใบ (ไป - กลับ 1 รอบ) ต่อปีปฏิทิน
- บริการห้องรับรองที่สนามบินทั่วโลกและสนามบินภายในประเทศโดยมีรายละเอียดดังนี้: ยอดเงินฝาก/เงินลงทุน: 50 ล้านบาทขึ้นไป จำนวนสิทธิ์การเข้าใช้บริการ Royal Silk Lounge (2 ครั้งต่อปี) DragonPass (12 ครั้งต่อปี)
- บริการรถลีมูซีนส่วนตัวรับหรือส่งระหว่างสนามบินและที่พักทั้งในและต่างประเทศ
- ประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ สูงสุด 35 ล้านบาท
- สิทธิประโยชน์ทั่วไป:
- สิทธิพิเศษส่วนลดห้องอาหารและห้องพักจากร้านอาหารและโรงแรมชั้นนำอภินันทนาการค่ากรีนฟี (1 ครั้งต่อบัญชีบัตรหลักต่อเดือน)สิทธิ์ในการเข้าใช้ฟิตเนสชั้นนำบริการที่จอดรถ
- รับเครดิตเงินคืน 3% ทันทีที่สถานีบริการน้ำมันบางจากที่ร่วมรายการ
- รับคะแนนสะสม "กรุงศรี พอยต์" 1 คะแนน เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรครบทุก 25 บาท
- บริการ Private Banking Assistance ช่วยเหลือ 24 ชม. (รถเสีย, ผู้ช่วยส่วนบุคคล, ช่วยเหลือฉุกเฉินภายในบ้าน)
- คุณสมบัติผู้สมัคร: เป็นลูกค้า Private Banking ของธนาคารกรุงศรี เงินฝาก/เงินลงทุนตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป
- ค่าธรรมเนียมรายปี: ฟรี (สำหรับลูกค้า Private Banking)
- เหมาะสำหรับ: ลูกค้า Private Banking ที่เดินทางต่างประเทศบ่อยและต้องการสิทธิประโยชน์ระดับสูงสุด
*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี*
- สิทธิประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว:
- สิทธิ์อัปเกรดชั้นบัตรโดยสารสายการบิน 1 ใบ (ไป - กลับ 1 รอบ) ต่อปีปฏิทิน
- สิทธิ์ใช้บริการห้องรับรองที่สนามบินทั่วโลกและสนามบินภายในประเทศ โดยมีรายละเอียดดังนี้: ยอดเงินฝาก/เงินลงทุน: 30 ล้านบาทขึ้นไป จำนวนสิทธิ์การเข้าใช้บริการ Royal Silk Lounge (2 ครั้งต่อปี) DragonPass (4 ครั้งต่อปี)
ยอดเงินฝาก/เงินลงทุน: 5 - 29.9 ล้านบาท จำนวนสิทธิ์การเข้าใช้บริการ Royal Silk Lounge (2 ครั้งต่อปี) DragonPass (2 ครั้งต่อปี)
- บริการรถลีมูซีนส่วนตัวรับหรือส่งระหว่างสนามบินและที่พักในประเทศ
- ประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ สูงสุด 20 ล้านบาท
- สิทธิประโยชน์ทั่วไป:
- สิทธิ์ในการเข้าใช้ฟิตเนสชั้นนำ
- บริการที่จอดรถ
- รับเครดิตเงินคืน 3% ทันทีที่สถานีบริการน้ำมันบางจากที่ร่วมรายการ
- รับคะแนน "กรุงศรี พอยต์" 1 คะแนน เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรครบทุก 25 บาท
- บริการ Signature Assistance ช่วยเหลือ 24 ชม. (รถเสีย, ผู้ช่วยส่วนบุคคล, ช่วยเหลือฉุกเฉินภายในบ้าน)
- คุณสมบัติผู้สมัคร: เป็นลูกค้า Exclusive ของธนาคารกรุงศรี เงินฝาก/เงินลงทุนตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป
- ค่าธรรมเนียมรายปี: ฟรี (สำหรับลูกค้า Exclusive)
- เหมาะสำหรับ: นักเดินทางที่ต้องการสิทธิประโยชน์ระดับสูงและมีการใช้จ่ายในต่างประเทศเป็นประจำ
*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี*
- สิทธิประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว:
- ประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ สูงสุด 20 ล้านบาท
- สิทธิพิเศษการใช้บริการห้องรับรอง DragonPass จำนวน 2 ครั้ง/ปีปฏิทิน สำหรับท่านสมาชิกที่มียอดใช้จ่ายสะสมผ่านบัตรฯ ตั้งแต่ 300,000 บาทขึ้นไป
- สิทธิประโยชน์ทั่วไป:
- รับกรุงศรีพอยต์สะสม 5 เท่า สำหรับหมวดห้างสรรพสินค้า หรือออนไลน์ และร้านอาหาร ที่ร่วมรายการ
- รับเครดิตเงินคืน 3% เมื่อใช้จ่ายที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก ที่ร่วมรายการ
- แลกพอยต์เท่ายอดใช้จ่ายรับส่วนลด 15% ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ
- บริการ Signatur e Assistance ช่วยเหลือ 24 ชม. (เลขาส่วนตัว, ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน และภายในบ้าน)
- ชำระเบี้ยประกัน รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 28,000 บาท
- รับส่วนลดสูงสุด 50% สำหรับการชมภาพยนตร์
- คุณสมบัติผู้สมัคร: อายุ 20 ปีขึ้นไป รายได้ขั้นต่ำ 70,000 บาท/เดือน
- ค่าธรรมเนียมรายปี: 4,280 บาท (รวม VAT 7%) ยกเว้นปีแรก ยกเว้นค่าธรรมเนียมในปีถัดไปเมื่อมียอดใช้จ่ายสะสม 300,000 บาทขึ้นไป ต่อ 12 รอบบัญชี
- เหมาะสำหรับ: นักเดินทางธุรกิจที่ใช้จ่ายในต่างประเทศบ่อย
*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี*
- สิทธิประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว:
- LADY'S TRAVEL: ความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุการเดินทาง ทั้งในและต่างประเทศ สูงสุด 6 ล้านบาท
- สิทธิประโยชน์ทั่วไป:
- LADY'S FASHIONISTA: รับเครดิตเงินคืน 7%* เมื่อช้อปแบรนด์ชั้นนำ ZARA, H&M, JASPAL, Pomelo., SEPHORA, EVEANDBOY และ Adidas (ภายในประเทศเป็นสกุลเงินบาท)
- LADY'S LIGHT PAY: แบ่งชำระ 0% นาน 4 เดือน* ในหมวดแฟชั่น แบรนด์เนม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์และคลินิกเสริมความงาม สปา
- LADY'S DRIVE: รับเครดิตเงินคืน 1%* ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากที่ร่วมรายการ เมื่อเติมน้ำมันครบทุกๆ 800 บาท/เซลล์สลิป
- แผนคุ้มครองบัตรหาย Zero Liability ย้อนหลังสูงสุด 24 ชั่วโมง ก่อนการแจ้ง
- คุณสมบัติผู้สมัคร: อายุ 20 ปีขึ้นไป รายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท/เดือน
- ค่าธรรมเนียมรายปี: 750 บาท/ปี (ฟรีเมื่อมีการใช้จ่ายต่อเนื่อง)
- เหมาะสำหรับ: สุภาพสตรีที่ชอบช้อปปิ้งในต่างประเทศ
*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี*
การใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศมีทั้งข้อดีและค่าใช้จ่ายที่ต้องคำนึงถึง ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่คุณสามารถลดค่าใช้จ่ายได้โดย
- เลือกบัตรที่มี FX Risk Fee ต่ำ
- หลีกเลี่ยงการใช้บริการ DCC (ไม่เลือกชำระเป็นเงินบาทเมื่ออยู่ต่างประเทศ)
- รูดบัตรเครดิตต่างประเทศที่มีสิทธิประโยชน์คุ้มค่า เช่น คะแนนสะสมพิเศษหรือประกันการเดินทาง
ก่อนเดินทาง ควรศึกษาเงื่อนไขและค่าธรรมเนียมของบัตรเครดิตที่คุณมีอย่างละเอียด และพิจารณาว่าบัตรใดเหมาะสมกับรูปแบบการใช้จ่ายของคุณมากที่สุด การวางแผนที่ดีจะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายและได้รับประโยชน์สูงสุดจากบัตรเครดิตของคุณในการเดินทางต่างประเทศ
หากใครที่สนใจบัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุม สามารถรองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์ มีโปรโมชันสุดคุ้มในร้านค้าและบริการ รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ก็สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของบัตรเครดิต ธนาคารกรุงศรีได้ที่
https://www.krungsricard.com/th/Product
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด