พูดคุยกับเราได้ที่

0 2646 3555

เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนเดือนไหนดี มีที่ไหนฮิตบ้าง

เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนเดือนไหนดี มีที่ไหนฮิตบ้าง
 
เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนเดือนไหนดี มีที่ไหนฮิตบ้าง
 
 

“อาหารทะเลสดใหม่ เทศกาลสุดปังทุกฤดูกาล ดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่ง” ใช่แล้วเรากำลังพูดถึงฮอกไกโด ดินแดนที่ชาวญี่ปุ่นต่างพาครอบครัวมาท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวฤดูร้อน อย่างวันหยุดโอปง ที่เกาะอื่นร้อนจัด แต่ฮอกไกโดไม่ร้อนชื้นเกินไป ทำให้ท้องฟ้าแจ่มใส ได้ชมดอกไม้งามทั่วเมือง

ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ว่า เที่ยวฮอกไกโดเดือนไหนดี ? ถึงจะได้สัมผัสกับบรรยากาศแจ่ม ๆ ไปพร้อมกับชาวญี่ปุ่น มาหาคำตอบกันได้เลย อ้อ! ขอบอกว่าเราเตรียมไอเดียชุดการแต่งกายเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนมาฝากสาว ๆ และหนุ่ม ๆ เอาไว้ด้วย
 

ทำความรู้จักกับฮอกไกโด

“ฮอกไกโด”เกาะเหนือสุดแห่งแดนอาทิตย์อุทัย ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเกาะฮอนชู หากไปกางแผนที่แล้วจะพบว่าอยู่ใกล้กับรัสเซียมาก ทำให้สภาพอากาศช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิติดลบชนิดที่เรียกว่าแม่น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง และพื้นที่บนฮอกไกโดมีแหล่งธรรมชาติอันงดงามมากมาย ไม่ว่าจะภูเขา น้ำตก แม่น้ำ ลำธาร ทำให้มีสัตว์ รวมทั้งดอกไม้นานาพันธุ์จำนวนมาก  แต่การเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน ก็ให้บรรยากาศความฟินไปอีกแบบ เพราะหน้าร้อนอุณหภูมิไม่ได้สูงจัดเหมือนกับภูมิภาคอื่น ทำให้ชาวญี่ปุ่นต่างเดินทางมาท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจมากเป็นพิเศษ ซึ่งเราได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน 15 แห่งสุดประทับใจไว้ให้เพื่อน ๆ แล้ว

 

ที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน
ที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน

 

15 ที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนประจำปี 2024

เมื่อเข้าใจสภาพภูมิประเทศโดยรวมของฮอกไกโดไปแล้ว มารู้จักกับที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนกันเลยดีกว่า ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจไว้แล้ว!

 

โทมิตะฟาร์มนอกจากเป็นที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย
โทมิตะฟาร์มนอกจากเป็นที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย
 
 

1. โทมิตะฟาร์ม (Farm Tomita)

สาว ๆ คนไหนชื่นชอบดอกไม้นานาพันธุ์ อยากได้วิวถ่ายรูปสุดปังท่ามกลางดอกไม้หลากสีสันบ้าง? ต้องพาแฟนหนุ่มของคุณมาที่โทมิตะฟาร์มในฮอกไกโดหน้าร้อนเลย เพราะถ้าไปฤดูอื่นคุณอาจไม่ได้เห็นทุ่งดอกไม้ที่สวยงามขนาดนี้
           
โทมิตะฟาร์มนอกจากเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย เพราะทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงบานสะพรั่งใจกลางฟาร์มแล้ว ยังมีทุ่งดอกไม้อื่น ๆ ที่ทุกคนต่างหลงรักเมื่อพบเห็นเป็นครั้งแรก เช่น ทุ่งฮานามิโต (Hanamito Field) ซึ่งปลูกดอกไม้หลากสีสันพันธุ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่ดอกลาเวนเนอร์ด้วย

  • ค่าเข้า
    ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • เวลาเปิด-ปิด
    08.30-17.30 น.
  • การเดินทาง
    นั่งรถไฟจากสถานีซัปโปโรลงสถานี Lavender Farm  หรือชื่อญี่ปุ่น คือ Norokko-go และเดินต่อประมาณ 7 นาที ก็ถึงโทมิตะฟาร์ม

 

เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนทั้งทีต้องมาทางเดินแห่งไฟของปีศาจ
เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนทั้งทีต้องมาทางเดินแห่งไฟของปีศาจ
 

 

2. ทางเดินแห่งไฟของปีศาจ (Onibino Michi)

ตั้งอยู่บนบริเวณหุบเขาจิโกะคุดานิ สาเหตุที่ได้ชื่อว่า “ทางเดินแห่งไฟของปีศาจ” เพราะมีบ่อน้ำพุร้อน และควันกำมะถันคละคลุ้งไปทั่วตลอดเวลา แถมดินโคลนยังเป็นสีน้ำตาล อมแดง ผู้พบเห็นเป็นครั้งแรก ต่างนึกว่าอยู่ในนรกกระทะทองแดง และสองข้างของทางเดินไม้ยังถูกตกแต่งด้วยโคมไฟนับไม่ถ้วน จึงให้บรรยากาศเหมือนปีศาจกำลังเดินอยู่นั่นเอง

  • ค่าเข้า
    ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • เวลาเปิด-ปิด
    ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดิน - 21.30 น.
  • การเดินทาง
    นั่งรถไฟจากสถานีซัปโปโรมาลงสถานีโนริเบทสึ จากนั้นขึ้นรถเมล์ และลงที่สถานีขนส่ง โนริเบ็ตสึ ออนเซ็น เดินต่ออีก 5 นาที จะพบกับทางเดินแห่งไฟของปีศาจ


 

เนินแห่งพระพุทธเจ้าสถานที่ท่องเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน ที่สายมูห้ามพลาด
เนินแห่งพระพุทธเจ้าสถานที่ท่องเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน ที่สายมูห้ามพลาด

 

3. เนินแห่งพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha)

สถานที่ท่องเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน ที่สายมูห้ามพลาด ต้องมาเยือนเนินแห่งพระพุทธเจ้า อันเป็นผลงานชิ้นโบแดงของ Tadao Ando สถาปนิกผู้ได้รับรางวัลพริตเกอร์ โดยองค์พระพุทธเจ้า จะประดิษฐานตรงกลางพื้นที่ โอบล้อมด้วยพระพุทธรูปองค์ต่าง ๆ ที่มีระดับลดหลั่นต่างกัน จนมีลักษณะเป็นเนินเขา และตกแต่งปกคลุมด้วยดอกลาเวนเดอร์นับไม่ถ้วนในลักษณะขั้นบันได

  • ค่าเข้า
     300 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเข้าชมฟรี
  • เวลาเปิด-ปิด
    09.00 - 22.00 น. (เดือน เมษายน - ตุลาคม)
    10.00 - 21.00 น. (เดือน พฤศจิกายน - มีนาคม)
  • การเดินทาง
    นั่งรถไฟจากสถานีซัปโปโร ลงสถานีมาโคมานะอิ ต่อด้วยนั่งรถเมล์ Chuo Bus สาย 108 ลงป้าย Takino Reign (Cemetry) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

 

สวนสาธารณะทาคิโนะ ซุซุรันที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนประจำเมืองซัปโปโร
สวนสาธารณะทาคิโนะ ซุซุรันที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนประจำเมืองซัปโปโร

 

4. สวนสาธารณะทาคิโนะ ซุซุรัน (Takino Suzuran Park)

สวนสาธารณะขนาดใหญ่หนึ่งเดียวประจำเมืองซัปโปโร ภูมิภาคฮอกไกโด ที่หน้าร้อนจะมีชาวญี่ปุ่นพาบุตรหลานเข้าเที่ยวชมธรรมชาติ น้ำตก และเครื่องเล่นสนุก ๆ อย่างครบครัน แต่ถ้ามาเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว เดือนธันวาคม สวนแห่งนี้จะกลายสภาพเป็นลานเจ็ทสกีขนาดใหญ่ พร้อมแปลงร่างกลายเป็นชื่อใหม่ที่เรียกว่า “ทาคิโนะสโนว์เวิร์ด” ดังนั้นหากไม่รู้ว่าควรไปฝึกขี่เจ็ทสกีที่ไหนดี แนะนำให้มาที่สวนแห่งนี้ช่วงฤดูหนาว

  • ค่าเข้า
    เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ใช้บริการฟรี
    ผู้ใหญ่ หรือเด็กที่อายุเกินกว่า 15 ปีขึ้นไป 410 เยน
    ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป 210 เยน
  • เวลาเปิด-ปิด
    20 เมษายน - 31 พฤษภาคม, 1 กันยายน - 10 พฤศจิกายน 9.00 - 17.00 น.
    1 มิถุนายน - 31 สิงหาคม 9.00 - 18.00น.
    23 ธันวาคม - 31 มีนาคม 9.00 - 16.00 น.
  • การเดินทาง
    นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานีมาโคมานะอิ (สายนัมโบกุ) เดินต่อมายังป้ายรถเมล์ ทางออก 2 และขึ้นรถเมล์สาย 106 ลงที่สถานีสุดท้ายเลยครับ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จะถึงสวนสาธารณะพอดี


 

หากมาเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนแล้วมองหาจุดชมวิว ต้องมาเยือนภูเขาฮาโกดาเตะ
หากมาเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนแล้วมองหาจุดชมวิว ต้องมาเยือนภูเขาฮาโกดาเตะ
 

 

5. ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mt.Hakodate)

หากมาเที่ยวฮอกไกโดแล้วมองหาจุดชมวิว ต้องมาเยือนภูเขาฮาโกดาเตะเลย เพราะว่าวิวสวยงามการันตีความปังในระดับที่มิชลินกรีนไกด์ยกนิ้วให้ว่าประสบการณ์เหมือนมาเยือนจุดชมวิวเมืองเนเปิ้ล และเกาะฮ่องกงเลยทีเดียว

  • ค่าเข้า
    ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • เวลาเปิด-ปิด
    24 ชั่วโมง
  • การเดินทาง
    ขึ้นรถรางจากสถานีฮาโกดาเตะ เอกิมาเอะ ลงป้ายจูจิไก และเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาทีจะพบกับสถานีกระเช้าลอยฟ้าซันโรกุ จากนั้นใช้บริการกระเช้าลอยฟ้าขึ้นเขาได้เลยครับ ค่าบริการดังนี้
    ผู้ใหญ่ 1 เที่ยว  1,200 เยน ไปกลับ 1,800 เยน
    เด็ก 1 เที่ยว 600 เยน ไปกลับ 900 เยน


 

คลองโอตารุเหมาะกับการมาเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน
คลองโอตารุเหมาะกับการมาเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน
 

 

6. คลองโอตารุ (Otaru Canal)

มาเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนทั้งที จะพลาดการนั่งเรือล่องคลองโอตารุ เพื่อสัมผัสลมเย็น ๆ และแสงแดดอบอุ่นได้อย่างไร? คลองแห่งนี้สองข้างทางประกอบด้วยร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ จำนวนมาก แถมตอนกลางคืนยังถูกตกแต่งด้วยโคมไฟนับไม่ถ้วน ให้ความรู้สึกชวนฝันแบบสุด ๆ

  • ค่าเข้า
    ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • เวลาเปิด-ปิด
    24 ชั่วโมง
  • การเดินทาง
    เดินทางได้ 3 วิธี
    • รถไฟ - นั่งรถไฟจากสถานีซัปโปโร ลงสถานีโอตารุ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ค่าโดยสาร 750 เยน
    • ขึ้นเรือ - นั่งจากท่าเรือนีงาตะมาลงท่าเรือโอตารุ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 18 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 7,500 เยน
    • รถเมล์ - ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที โดยนั่งตั้งแต่สถานีรถไฟโอตารุชิโกะ และลงที่สถานีขนส่งเรือเฟอร์รีโอตารุ

 

หากต้องการเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนชมดอกลาเวนเดอร์แนะนำให้มาทุ่งลาเวนเดอร์โฮโรมิโตเกะ
หากต้องการเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนชมดอกลาเวนเดอร์แนะนำให้มาทุ่งลาเวนเดอร์โฮโรมิโตเกะ
 

 

7. ทุ่งลาเวนเดอร์โฮโรมิโตเกะ (Horomitoge Lavender Garden)

นอกจากโทมิโตะฟาร์มแล้ว หากต้องการชมดอกลาเวนเดอร์เป็นพิเศษให้เพื่อน ๆ มาเยือนได้ที่ทุ่งลาเวนเดอร์แห่งนี้ได้เช่นกัน ซึ่งตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองซัปโปโรเลย แนะนำให้เดินขึ้นไปยอดสุดของเนินแล้วมองลงมา จะเห็นวิวทั่วเมืองซัปโปโรทั้งหมด พร้อมเห็นทุ่งลาเวนเดอร์ม่วงเข้มที่เห็นแล้วต้องกดชัตเตอร์กล้องกันรัว ๆ

  • ค่าเข้า
    ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • เวลาเปิด-ปิด
    9.00 - 17.00 น.
  • การเดินทาง
    นั่งรถไฟฟ้าสถานีซัปโปโร ลงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีโอโดริ และเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสายโทไซ ลงสถานีที่ 3 ชื่อว่า มารุยามะ โคเอ็น จากนั้นเดินออกจากสถานี แล้วต่อด้วยรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่ทุ่งลาเวนเดอร์ ใช้เวลาเดินทางจากรถแท็กซี่ไปถึงทุ่งประมาณ 15 นาที

 

 
เขาโมอิวะจุดถ่ายรูปชมวิวพระอาทิตย์ตกอันงดงามของฮอกไกโดหน้าร้อน
เขาโมอิวะจุดถ่ายรูปชมวิวพระอาทิตย์ตกอันงดงามของฮอกไกโดหน้าร้อน
 

 

8. เขาโมอิวะ (Mt. Moiwa)

ใครกำลังมองหาจุดถ่ายรูปชมวิวพระอาทิตย์ตกอันงดงามของฮอกไกโดหน้าร้อนแล้ว ต้องมาเยือนที่เขาโมอิวะ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโรฮอกไกโด ด้านบนภูเขาจะมีตุ๊กตาโมริซุ หน้าตาคล้ายกระรอกสุดคิ้วท์อันเป็นสัญลักษณ์ของภูเขาตั้งอยู่ และมีร้านขายของฝากตุ๊กตาน้องกระรอกไปฝากคนทางบ้านด้วย

  • ค่าเข้า
    ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • เวลาเปิด-ปิด
    24 ชั่วโมง
  • การเดินทาง
    จากสถานีรถไฟซัปโปโร ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสายนัมโบกุมาลงสถานีซูซูกิโนะ ต่อด้วยรถราง มาลงป้ายอิริกุชิ เมื่อถึงป้ายแล้วให้ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ซึ่งจะมีรถให้บริการฟรีไปส่งที่สถานีกระเช้าลอยฟ้า “โมอิวะ ซันโรกุ” และคุณสามารถขึ้นเขาด้วยบริการจากกระเช้าลอยฟ้า

 

แหลมคามูอิแสงแดดอบอุ่นเหมาะกับฮอกไกโดหน้าร้อน
แหลมคามูอิแสงแดดอบอุ่นเหมาะกับฮอกไกโดหน้าร้อน
 

 

9. แหลมคามูอิ (Cape Kamui)

อยากชมวิวทะเลอันกว้างใหญ่ สัมผัสกับแสงแดดอบอุ่นฮอกไกโดหน้าร้อนต้องเดินทางมาที่แหลมคามูอิ แห่งเมืองชาโคตัน ระหว่างทางคุณจะได้ชมธรรมชาติอันงดงามมากมาย เมื่อเดินถึงสุดปลายแหลม เพื่อนๆ จะพบกับประภาคารอันเก่าแก่ และหินประหลาดรูปร่างคล้ายคนด้วยครับ

  • ค่าเข้า
    ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • เวลาเปิด-ปิด
    เดือนเมษายน 8.00 - 17.30 น.
    เดือนพฤษภาคม 8.00 - 18.00 น.
    เดือนมิถุนายน 8.00 - 18.30 น.
    เดือนกรกฎาคม 8.00 - 18.00 น.
    เดือนสิงหาคม -ตุลาคม 8.00 - 17.30 น.
    เดือนพฤศจิกายน 8.00 - 16.30 น.
    เดือนธันวาคม - มีนาคม 10.00 - 15.00 น
  • การเดินทาง
    นั่งรถไฟจากสถานีซัปโปโร ลงสถานีโอตารุ เดินออกจากสถานีโอตารุ ขึ้นรถเมล์ Hokkaido Chuo ลงป้ายฟูรุบิระและเรียกรถแท็กซี่ท้องถิ่น ให้มาส่งที่แหลมคามูอิ ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 2 ชั่วโมง

 

โรงงานช็อกโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะสถาที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน
โรงงานช็อกโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะสถาที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน
 

 

10. โรงงานช็อกโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)

อยากสัมผัสบรรยากาศโรงงานช็อกโกแลตของจริง เหมือนหลุดไปในภาพยนตร์เรื่อง “โรงงานช็อกโกแลตมหัศจรรย์” ที่จอนนี่เด็ปแสดงนำ ต้องมาที่นี่เลย สภาพโรงงานก็ไม่ใช่อุตสาหกรรมหนักแบบจ๋ าๆ เพราะด้านในมีโซน workshop จัดแสดงต่าง ๆ และประวัติการเดินทางของช็อกโกแลตแสนอร่อย แนะนำว่าอย่าชมเพลินนะ เพราะมีขนมหวานขายตลอดทาง ระวังน้ำหนักขึ้นไม่รู้ตัว!

  • ค่าเข้า
    เด็กอายุ 0 - 3 ปี ไม่มีค่าใช้จ่าย
    เด็กอายุ 4 - 15 ปี 400 เยน
    ผู้ใหญ่ (อายุ 16 ปีขึ้นไป) 800 เยน
  • เวลาเปิด-ปิด
    10:00-19:00 น.
  • การเดินทาง
    นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายโทไซ จากสถานีโอตารุ มาลงสถานีมิยาโนะซาวะ จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 7 นาที ก็ถึงโรงงานช็อกโกแลตแห่งนี้
    หรือนั่งรถเมล์ Hokkaido Chuo จากสถานีขนส่งซัปโปโร และลงป้าย Nishimachi Kita 20-chome และเดินต่อมายังโรงงานช็อกโกแลต

 

เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนต้องเมืองบิเอะเพื่อชมบ่อน้ำสีฟ้า
เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนต้องเมืองบิเอะเพื่อชมบ่อน้ำสีฟ้า
 

 

11. บ่อน้ำสีฟ้า (Blue Pond)

น้ำสีฟ้าที่แปลกแต่จริง! เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนต้องเมืองบิเอะเท่านั้น และเป็นที่เดียวในญี่ปุ่นที่จะเจอกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินี้ ซึ่งเกิดจากน้ำในเขื่อนผสมกับแร่ธาตุกำมะถันจากภูเขาไฟที่ปะทุใกล้เคียง สะสมเป็นเวลานาน เห็นอย่างนี้ห้ามลงเล่น ห้ามชิมน้ำนะครับอันตรายมาก บอกเลยว่าน้ำแต่ละวันให้สีฟ้าไม่เท่ากัน ยิ่งถ้าเป็นหน้าร้อนแล้วให้สีฟ้าหลายเฉดสุด ๆ

  • ค่าเข้า
    ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • เวลาเปิด-ปิด
    เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
  • การเดินทาง
    จากสถานีซัปโปโรจะมีรถทัวร์พาคุณไปชมบ่อน้ำสีฟ้าโดยเฉพาะ ให้คุณขึ้นรถทัวร์ได้เลยครับ นั่งเพียงต่อเดียวเท่านั้น และหากเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนจะมีรถทัวร์เที่ยวพิเศษมารับคุณถึงที่ตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากสถานีฟูราโน่ และสถานีบิเอะด้วย

 

เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนที่โกดังอิฐอันเก่าแก่
เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนที่โกดังอิฐอันเก่าแก่
 

 

12. โกดังอิฐสีแดงคําเนะโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse)

โกดังอิฐอันเก่าแก่เป็นสถานที่รองรับการค้าขายของนักเดินเรือที่มาเยือนฮอกไกโดในอดีต แต่ปัจจุบันได้กลายสภาพศูนย์การค้าสุดชิค ให้ฟีลแบบเอเชียทีคบ้านเราแบบสุดๆ ด้านในโกดังนอกจากเป็นแหล่งช้อปปิ้งแล้ว ยังเป็นร้านอาหาร บาร์ต่าง ๆ ให้มาดับเหงื่อช่วงเยือนหน้าร้อน อีกด้วย

  • ค่าเข้า
    ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • เวลาเปิด-ปิด
    9:30 - 19:00 น.
  • การเดินทาง
    นั่งรถไฟจากสถานีซัปโปโร ลงสถานีฮาโกดาเตะ เดินต่อประมาณ 10 - 15 นาที หรือนั่งรถรางมาลงป้ายจูจิไกและเดินต่อประมาณ 5 นาที

 

ซูซูกิโนะแหล่งบันเทิงของการเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน
ซูซูกิโนะแหล่งบันเทิงของการเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน
 

 

13. ซูซูกิโนะ (Susukino)

แหล่งบันเทิงเอาใจขาช็อปประจำฮอกไกโด  เพื่อน ๆ ผู้ชื่นชอบท่องราตรีขอบอกเลยว่าอย่าพลาด เพราะมาที่เดียวจะได้พบกับร้านราเมงสุดอร่อย, คลับ บาร์ชื่อดัง พร้อมดับเหงื่อ คลายหิวในระหว่างการเที่ยวฮอกไกโด อ้อ! ถ้าอยากเห็นว่าร้านปาจิงโกะของจริงเป็นอย่างไร มาเยือนที่ย่านนี้ได้

  • ค่าเข้า
    ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • เวลาเปิด-ปิด
    24 ชั่วโมง
  • การเดินทาง
    นั่งรถไฟใต้ดินสายนัมโบกุ จากสถานีซัปโปโร มาลงที่ซูซูกิโนะได้เลยครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที

 

สวนสัตว์อะซาฮิยาม่าเหมาะกับการเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน
สวนสัตว์อะซาฮิยาม่าเหมาะกับการเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน
 

 

14. สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo)

สวนสัตว์ชื่อดังประจำเมืองอะซาฮิยาม่า ที่ได้รวบรวมน้อง ๆ จากทั่วทุกมุมโลกซึ่งคุณไม่เคยพบเจอมาก่อนในประเทศไทย อย่างเพนกวิน หมีขั้วโลก ปลาคาร์ฟ และสัตว์ท้องถิ่นอื่น ๆ ของฮอกไกโด และไฮไลต์ คือเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแบบใกล้ชิดแบบสุด ๆ ไม่ได้จับใส่กรงมิดชิดแบบสวนสัตว์อื่นด้วย

  • ค่าเข้า
    เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าชมฟรี
    ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป 1,000 เยน
  • เวลาเปิด-ปิด
    ทุกวันเวลา 10.30 - 15.30 น. (ช่วงเวลาอาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
  • การเดินทาง
    นั่งรถเมล์สาย 41 42 47 จากสถานีรถไฟอาซาฮิคาวะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที

 

นิงเกิล เทอร์เรสเหมาะกับการเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน
นิงเกิล เทอร์เรสเหมาะกับการเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน
 

 

15. นิงเกิล เทอร์เรส (Niggle Terrace)

กระท่อมไม้เล็ก ๆ กลางป่าที่เรียงรายกันท่ามกลางธรรมชาติแห่งฮอกไกโด ให้บรรยากาศอบอุ่น  สวยงามขนาดทีวีกองถ่ายภาพยนตร์ต้องมา!

  • ค่าเข้า
    ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • เวลาเปิด-ปิด
    ตลอดทั้งปี 12.00 - 20.45 น.
    ยกเว้น 1 กรกฎาคม  - 31 สิงหาคม 10.00 - 20.45 น. (ช่วงเวลาอาจมีการปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล)
  • การเดินทาง
    นั่งรถไฟจากสถานีซัปโปโร ลงสถานีฟูราโนะ แล้วต่อด้วยรถแท็กซี่ท้องถิ่นใช้เวลาอีกประมาณ 10 นาที จะถึงนิงเกิล เทอร์เรส

 

สภาพอากาศมีกี่ฤดู ตรงกับเดือนอะไร อุณหภูมิเท่าไหร่ แต่งกายอย่างไร

ก่อนเลือกว่าควรเดินทางไปเที่ยวฮอกไกโดเดือนไหนดี? ต้องทำความรู้จักกับสภาพอากาศเป็นอันแรกครับ ซึ่งฮอกไกโดประกอบด้วย 4 ฤดูกาล ตรงกับเดือน และมีอุณหภูมิที่แตกต่างกันดังนี้

  • ฤดูใบไม้ผลิ

    ตรงกับเดือนมีนาคม - พฤษภาคม ช่วงนี้อุณหภูมิอากาศอยู่ระหว่าง 5 - 25 องศาเซลเซียส ไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไป
    • การแต่งกาย
      ถ้าสาวๆ อยากถ่ายรูปสวยๆใต้ต้นซากุระ แนะนำให้สวมเสื้อสีโทนอ่อน ใส่กระโปรงขายาว และเสื้อโค้ตสั้นทับอีกชั้น ส่วนหนุ่ม ๆ อาจสวมเสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ขายาว คลุมทับด้วยเสื้อโค้ตแจ็กเกตผ้าวูล
       
  • ฤดูร้อน

    ตรงกับเดือนมิถุนายน - สิงหาคม อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 16  -35  องศาเซลเซียส
    • การแต่งกาย
      แต่งแบบชิว ๆ ได้เลยครับฟรีสไตล์ได้อย่างที่ทุกคนต้องการ เพราะอากาศไม่ร้อนจนเกินไป ใส่กางเกงช้าง เสื้อยืดเดินในฮอกไกโดไม่ใช่เรื่องผิด และอาจสวมเสื้อสเวตเตอร์คลุมทับอีกชั้น เผื่ออากาศบางวันเย็นกว่าปกติ
       
  • ฤดูใบไม้ร่วง

    ตรงกับเดือนกันยายน - พฤศจิกายน อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 1 - 22 องศาเซลเซียส
    • การแต่งกาย
      ถ้าสาว ๆ อยากแต่งกายให้ถ่ายรูปได้บรรยากาศฤดูดอกไม้แดง แนะนำให้สวมเสื้อโทนสีน้ำตาลเข้ม พร้อมกับกระโปรงสุดชิคสีน้ำตาลสุดน่ารัก และสวมโค้ทสีส้มอมแดงทับอีกชั้น ส่วนหนุ่ม ๆ อาจสวมเสื้อแขนยาว แจ็กเกตกันลม กางเกงยีนทรงกว้างขาสอบ
       
  • ฤดูหนาว

    ตรงกับเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ อุณหภูมิอยู่ระหว่าง -10 - 0 องศา
    • การแต่งกาย
      แนะนำให้ใส่เสื้อขนเป็ด เสื้อแขนยาว และรองเท้าบู๊ท พร้อมหมวกถักไหมพรม เน้นรักษาอุณหภูมิแก่ร่างกายสู้กับอากาศหนาว

       

กิจกรรม / เทศกาลประจำฤดู

หากวางแผนเที่ยวฮอกไกโด ควรเลือกให้ถูกนะว่าจะเที่ยวฮอกไกโดเดือนไหนดีเพราะแต่ละฤดูมีอีเวนท์ประจำเทศกาลที่มีของดีไม่เหมือนกัน รายละเอียดดังนี้เลย

  • ฤดูใบไม้ผลิ

    ฤดูนี้เน้นชมดอกซากุระเป็นพิเศษ ทำให้เกิดเทศกาลฮานามิทั่วเกาะฮอกไกโด เราจะเห็นคู่รักหนุ่มสาว นั่งจีบกันพร้อมดื่มชาร้อน ๆ กับขนมดังโงะใต้ต้นซากุระ
  • ฤดูร้อน

    เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน ใครขวัญอ่อนกลัวดอกไม้ไฟ ให้ระวังนิดนึงนะ เพราะฤดูนี้เขาจุดพลุ ดอกไม้ไฟ และการแห่ศาลเจ้ารอบเมือง กันเป็นประจำ เพราะเชื่อกันว่าจะนำพาชีวิตที่มีแต่ความสงบสุข และสุขภาพแข็งแรงมาให้ชาวเกาะ
  • ฤดูใบไม้ร่วง

    เทศกาลฤดูใบไม้ร่วงขึ้นชื่อของชาวฮอกไกโด คือ “โมมิ-จี ฮาโกดาเตะ” จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่สวนสาธารณะโคเซ็ตสึเอนแห่งเกาะฮอกไกโด มางานนี้คุณจะพบกับดอกไม้สีแดงนานาพันธุ์ และงานศิลปะเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างดนตรีสด และกิจกรรมอื่น ๆ ด้วย
  • ฤดูหนาว

    ฤดูนี้คึกคักเป็นพิเศษไม่แพ้ฮอกไกโด ช่วงหน้าร้อนเลยครับ เพราะจัดเทศกาลหิมะซัปโปโรเป็นประจำทุกปี ซึ่งจะมีนักแกะสลักหิมะมืออาชีพเข้าร่วมจำนวนมาก ทำให้นักท่องเที่ยวต่างรอคอยพบกับประติมากรรมแกะสลักน้ำแข็งสุดอลังการ พร้อมกิจกรรมสนุก ๆ อื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขี่เจ็ทสกี หรือสร้างบ้านอิกลูแบบชาวเอสกิโม

 

อาหารประจำฤดู

เมื่อรู้แล้วว่าไปเที่ยวฮอกไกโดแต่ละเดือนมีอีเวนต์อะไรบ้าง ก็ควรทำความรู้จักกับอาหารชื่อดังประจำฤดู จะมีเมนูไหนที่น่ากิน รู้แล้วขอบอกว่าจะดีต่อใจ จนอยากไปกินอีกรอบ

  • ฤดูใบไม้ผลิ

    หลายครอบครัวออกมาปิกนิกใต้ต้นซากุระ ทำให้เมนูเด็ดที่ชาวฮอกไกโดจำนวนมากรับประทาน ก็คือ “เจงกีสข่าน” พูดง่าย ๆ มันคล้าย ๆ กับหมูกระทะบ้านเรา แต่ว่าจะใช้แลมป์ หรือเนื้อแกะแทนเนื้อหมู รับประทานคู่กับผักเคียงท้องถิ่น และเส้นอุด้ง พร้อมเครื่องดื่มอย่างเบียร์เย็น ๆ สักแก้ว
  • ฤดูร้อน

    เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนของอร่อยขึ้นชื่อจะเป็นของหวานดับเหงื่ออย่างไอศกรีมซอฟเซิฟสีม่วงดอกลาเวนเดอร์ และเมลอน ซอฟเซิฟ
  • ฤดูใบไม้ร่วง

    ฤดูใบไม้ผลิต้องกินเจงกีสข่านชมดอกซากุระ ชมดอกไม้แดงฤดูใบไม้ร่วงต้องทาน “อิชิคาริ นาเบะ” อีกหนึ่งเมนูหม้อไฟชื่อดังประจำฮอกไกโด ประกอบด้วยเส้นสาหร่ายคมบุดาชิ, น้ำซุปมิโซะ, ผักท้องถิ่น, กระดูกปลาแซลมอน พร้อมด้วยปลาแซลมอนหมัก
  • ฤดูหนาว

    อากาศหนาวจนแม่น้ำเป็นน้ำแข็ง ของดีของอร่อยสุดแซ่บจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากราเมงร้อน ๆ สักชาม ขอบอกเลยว่าที่ฮอกไกโดมีร้านราเมงขึ้นชื่อหลายร้านมากครับ และมาพร้อมกับสูตรราเมงต่างออกไปในแต่ละเมือง เช่น ราเมงซัปโปโร, ราเมงอาซาฮิคาวะ, รางเมงฮาโกดาเตะ

     

วิธีการเดินทางเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน

ทริปเดินทางเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนมีวิธีเดินทางที่ง่าย และสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ดังต่อไปนี้

  • รถไฟ JR Hokkaido Rail Pass

    เป็นตั๋วเหมาแบบเที่ยว ใช้โดยสารรถไฟ JR Hokkaido ได้ทุกสาย ซึ่งจะเดินทางกี่รอบก็ได้ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่จำกัดวันใช้งาน และขึ้นรถเมล์บางสายของ JR Hokkaido ได้ด้วย ทำให้ก่อนซื้อตั๋วประเภทนี้เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนต้องวางแผนซื้อตั๋วให้ดีว่าคุณจะอยู่กี่วัน เพื่อให้ใช้งานอย่างคุ้มค่าที่สุด
    • ประเภทตั๋ว 3 วัน
      เด็กอายุ 6 - 11 ปี ราคา 8,250 เยน
      ผู้ใหญ่ ราคา 16,500 เยน
    • ประเภทตั๋ว 4 วัน
      เด็กอายุ 6 - 11 ปี ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่น 10,500 เยน ราคาจำหน่ายนอกญี่ปุ่น 10,000 เยน
      ผู้ใหญ่ ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่น  21,000 เยน ราคาจำหน่ายนอกญี่ปุ่น 20,000 เยน
    • ประเภทตั๋ว 5 วัน
      เด็กอายุ 6 - 11 ปี ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่น 10,500 เยน ราคาจำหน่ายนอกญี่ปุ่น 10,000 เยน
      ผู้ใหญ่ ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่น  21,000 เยน ราคาจำหน่ายนอกญี่ปุ่น 20,000 เยน
    • ประเภทตั๋ว 7 วัน
      เด็กอายุ 6 - 11 ปี ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่น 13,500 เยน ราคาจำหน่ายนอกญี่ปุ่น 13,000 เยน
      ผู้ใหญ่ ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่น  27,000 เยน ราคาจำหน่ายนอกญี่ปุ่น 26,000 เยน
    • ประเภทตั๋ว 10 วัน
      เด็กอายุ 6 - 11 ปี ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่น 16,000 เยน ราคาจำหน่ายนอกญี่ปุ่น 16,500 เยน
      ผู้ใหญ่ ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่น  33,000 เยน ราคาจำหน่ายนอกญี่ปุ่น 32,000 เยน
       
  • บัตร JR Pass สำหรับซัปโปโร-ฟุราโนะ

    เด็กอายุ 6 - 11 ปี ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่น 5,500 เยน ราคาจำหน่ายนอกญี่ปุ่น 5,000 เยน
    ผู้ใหญ่ ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่น  11,000 เยน ราคาจำหน่ายนอกญี่ปุ่น 10,000 เยน
  • บัตร JR Pass สำหรับซัปโปโร-โนโบริเบทสึ

    เด็กอายุ 6 - 11 ปี ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่น 5,000 เยน ราคาจำหน่ายนอกญี่ปุ่น 4,500 เยน
    ผู้ใหญ่ ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่น  10,000 เยน ราคาจำหน่ายนอกญี่ปุ่น 9,000 เยน
 

การขับจักรยานที่ฮอกไกโด (Hokkaido) : สิ่งสำคัญที่ควรรู้

ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องวินัยจราจรมาก แค่ปั่นจักรยานผิดกฎ ทำเอาเสียค่าปรับได้ง่าย ๆ เลย มีกฎสำคัญที่ควรรู้ ดังนี้
  • การเปิดไฟจักรยาน

    ใครขี่จักรยานที่ฮอกไกโดช่วงกลางคืนต้องเปิดไฟตลอดเวลานะครับ หากลืมเปิดจะต้องเสียค่าปรับขั้นต่ำ 50,000 เยน สาเหตุที่ต้องเปิดไฟ เพราะญี่ปุ่นช่วงหน้าหนาวมืดเร็วมากครับ ต่อให้เป็นฮอกไกโดหน้าร้อนก็ตาม ขืนไม่เปิดไฟได้ชนคนแน่นอน
  • ดื่มแล้วขับ

    กฎข้อนี้อาจฟังดูแปลกสักหน่อยสำหรับคนไทย แต่ญี่ปุ่นซีเรียสมาก แค่เมาแล้วขับขี่จักรยาน อาจถูกหิ้วเข้าซังเตได้เลย โทษก็แรงพอตัว จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านเยน
  • ขี่บนทางเท้าไม่ชิวอย่างที่คิด

    ในบ้านเราใครใคร่อยากปั่นจักรยานบนทางเท้าก็ปั่นไปใช่ไหม อยากบีบแตรกดกริ่ง ก็ทำได้ แต่ที่ญี่ปุ่นไม่ได้นะ บีบแตรกดกริ่งใส่คนเดินเท้าซี้ซั้วคนญี่ปุ่นได้มองค้อน แจ้งจับคุณได้เลย เพราะที่นี่ให้อภิสิทธิ์คนเดินเท้าเป็นพิเศษ สำหรับโทษของการกดกริ่งใส่คนเดินเท้า คือ ปรับ 20,000 เยน

 

การขับรถที่ฮอกไกโด (Hokkaido) : สิ่งสำคัญที่ควรรู้

ถ้าเพื่อน ๆ ตัดสินใจทัวร์ฮอกไกโดหน้าร้อนด้วยการเช่ารถขับแล้ว สิ่งสำคัญที่ควรรู้คือ กฎจราจรเบื้องต้นของญี่ปุ่นครับ ถึงแม้ในไทยกับญี่ปุ่นจะขับพวงมาลัยขวาเหมือนกัน แต่บอกเลยว่าไม่ชิวอย่างที่ทุกคนคิด

  • ลืมกฎเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด

    ที่นี่ไม่มีนะครับกฎเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด คุณจะเลี้ยวได้ก็ต่อเมื่อสัญญาณไฟขึ้นเขียวเท่านั้น เลี้ยวสุ่มสี่สุ่มห้า นอกจากจากเสี่ยงติดคุกหัวโตแล้ว ยังอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ
  • ใบขับขี่สากล

    ก่อนไปเช่ารถขับ ให้เพื่อน ๆ ทำใบขับขี่สากลให้เรียบร้อย และร้านเช่ารถยนต์บางแห่งอาจขอดูใบขับขี่ไทยควบคู่ไปด้วย ถ้าไม่มีใบขับขี่สากล โทษปรับสูงสุด 5 แสนบาท
  • ใช้โทรศัพท์ระหว่างขับขี่

    เช่ารถขับเองบนถนนญี่ปุ่นระวังให้ดีนะ ที่นี่ตำรวจทำงานกวดขันตลอด 24 ชั่วโมง อย่าคิดว่าแค่ยกโทรศัพท์แปปเดียวจะไม่มีใครเห็น เพราะมีกล้องแทบทุกที่บนถนนญี่ปุ่น และโทษปรับของการใช้โทรศัพท์ตอนขับรถยนต์ คือ ปรับสูงสุด 5 แสนบาท


เมื่อเพื่อน ๆ ทราบแล้วว่าไปเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนต้องเดินทางไปเดือนไหนดี ก็อย่าลืมตรวจสอบสิ่งสำคัญก่อนออกเดินทางนั่นคือ ตรวจเช็กสภาพอากาศให้เรียบร้อย เพราะฮอกไกโดสภาพอากาศแปรปรวนตลอดทั้งปี โดยเฉพาะหน้าร้อนจะเป็นฤดูมรสุม ทำให้มีฝนตกหนักเป็นพิเศษ ซึ่งหากเกิดพายุเข้าการขนส่งสาธารณะญี่ปุ่นจะหยุดให้บริการทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

สำหรับ สายกิน ช้อป เที่ยว เจแปนเลิฟเวอร์ ต้องมี บัตรเครดิต กรุงศรี เจซีบี แพลทินัม พร้อมรับสิทธิประโยชน์ดีๆ มากมาย เช่นรับเครดิตเงินคืน 3%* เมื่อใช้จ่ายที่ร้านอาหารทั่วโลก รับเครดิตเงินคืน 1%* เมื่อใช้จ่ายที่ประเทศญี่ปุ่นและประเทศที่ร่วมรายการ บริการ Airport Lounge ที่สนามบินในประเทศญี่ปุ่นและอีก 9 ประเทศที่ร่วมรายการ และประกันอุบัติเหตุการเดินทาง ทั้งในและต่างประเทศ มีบัตรไว้เที่ยวญี่ปุ่นสนุก คุ้มแน่นอน สมัครเลย!
 *เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด



สมัครบัตรเครดิต กรุงศรี เจซีบี แพลทินัม